เช็คสุขภาพ : ที่นี่ ... มีคำตอบให้ทุกคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน
หน้าแรก / บทความ / ไรฝุ่น (Dust Mite)
โดย : วณิชชา สุมานัส
ทบทวนบทความโดย : ทีมแพทย์จากเช็คสุขภาพ
ไรฝุ่น (Dust Mite)

มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dermatophagoides pteronyssinus, Dermatophagoides fariae

เป็นแมลงขนาดเล็ก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพราะมีความยาวเพียง 250 – 300 ไมครอน มี 8 ขา เป็นสัตว์ตระกูลเกียวกับแมงมุม ไม่มีตา วางไข่คราวละ 20 – 50 ฟอง 3 สัปดาห์/ครั้ง ระยะฟักตัว 8 – 12 วัน แต่ละตัวมีอายุ 2 – 4 เดือน สามารถปะปนอยู่กับฝุ่นตามพื้นบ้าน ห้องนอน ที่นอน หมอน พรม และเครื่องเรือนต่างๆ ไรฝุ่นกินเศษผิวหนังและรังแคเป็นอาหาร จากนั้นจะถ่ายมูลไว้ในสถานที่ที่อาศัยอยู่ โดยเฉพาะบนเตียง หรือที่นอน ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของตัวไรฝุ่นและมูลของมันไรฝุ่นจะอาศัยอยู่ทุกที่ที่มนุษย์อาศัยอยู่ ไรฝุ่นเป็นสัตว์ตระกูลเดียวกับแมงมุม ไรฝุ่นเป็นองค์ประกอบหลักของฝุ่นละออง คุณไม่สามารถมองเห็นฝุ่นละอองเหล่านี้ได้ แต่จำนวนของฝุ่นละอองเหล่านี้มีมากมายมหาศาล เพียงแค่เตียงนอนของคุณก็อาจมีจำนวนของไรฝุ่นอยู่ถึง 2 ล้านตัว ทั้งนี้ไรฝุ่นยังเจริญเติบโตได้ดีในหมอนและเฟอร์นิเจอร์นุ่มๆ ของเล่นที่มีขน และพรม โดยเฉพาะสถานที่ภายในห้องครัวเเละห้องน้ำที่มักจะเป็นที่สะสมของไรฝุ่นจำนวนมาก

วิธีกำจัดไรฝุ่น

ไม่ต้องวิตกไป ไรฝุ่นไม่สามารถทำอันตรายร้ายแรงหรือกัดกินผิวหนังของคุณได้ แต่อาจทำให้คุณเกิดอาการแพ้ซึ่งอาการของการแพ้ไรฝุ่นนั้น หากร้ายแรงสามารถก่อให้เกิดโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคหอบหืด โรคกลาก โพรงจมูกอักเสบ เป็นต้น และมีอาการโดยทั่วไป เช่น น้ำมูกไหล น้ำตาไหล และคันจมูก ดังนั้นการทำความสะอาดบ้านจึงคุ้มค่า

1) ปัดฝุ่นและดูดฝุ่นบ้านเป็นประจำ คุณควรปัดฝุ่นและดูดฝุ่นบ้านอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าสถานที่ที่ทำความสะอาดยากได้รับการทำความสะอาดแล้ว อาทิเช่น ชั้นวางหนังสือชั้นบน หรือด้านหลังและข้างใต้เฟอร์นิเจอร์ของคุณ คุณควรดูดฝุ่นบ้านและพรมให้ละเอียด

2) ซักเครื่องนอนของคุณอย่างสม่ำเสมอ. ขอเเนะนำให้คุณซักผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนบ่อยมากขึ้น คุณควรซักเครื่องนอนของคุณด้วยอุณหภูมิที่สูง เพราะมีประสิทธิภาพในการกำจัดไรฝุ่นได้ดีกว่า แต่การใช้น้ำอุ่นจะช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติและสามารถกำจัดไรฝุ่นได้เช่นกัน

3) ทำให้บ้านแห้งและมีอากาศถ่ายเทอยู่เสมอ. คุณควรเปิดหน้าต่างบ้านให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกและใช้พัดลมระบายอากาศในห้องน้ำและห้องครัวหลังใช้งานหรือทำความสะอาดเสร็จ

4) ใช้เครื่องฟอกอากาศหรือเครื่องลดความชื้น เครื่องฟอกอากาศมีประสิทธิภาพในการกำจัดไรฝุ่นในอากาศ และเครื่องลดความชื้นสามารถช่วยลดความชื้นภายในบ้านที่ไรฝุ่นชอบมาอยู่อาศัยและเจริญเติบโต

5) ซักปลอกหมอน ให้บ่อยขึ้น

6) ซัก ผ้าม่าน ผ้าห่ม ทุกสองถึงสามเดือน หากคุณมีอาการแพ้ฝุ่น คุณอาจเลือกใช้ผ้าคลุมที่นอนที่สามารถป้องกันฝุ่นบนที่นอน ผ้าห่ม และหมอนของคุณได้

6) ทำความสะอาดด้วยสเปรย์กำจัดไรฝุ่น ใช้สเปรย์กำจัดไรฝุ่นหรือผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่นแบบผงฉีดหรือเทลงบนเฟอร์นิเจอร์ พื้นพรม หรือเบาะที่นั่งต่างๆ เพื่อกำจัดไรฝุ่น คุณควรอ่านฉลากการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างระมัดระวังก่อนใช้ เนื่องจากสเปรย์กำจัดไรฝุ่นบางประเภทสามารถทำให้วัสดุภายในบ้านของคุณเสียหายได้

คุณจะสามารถกำจัดไรฝุ่นที่ไม่พึงประสงค์และป้องกันตัวไรฝุ่นได้อย่างง่ายดาย และแม้ว่าไรฝุ่นนั้นเป็นส่วนหนึ่งของข้าวของที่คุณใช้อยู่ทุกวันภายในบ้าน คำแนะนำนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ไรฝุ่นมาสร้างปัญหาให้แก่คุณและครอบครัวได้

01/05/2018
บทความที่เกี่ยวข้อง

วี แอล ดี แอล (Very Low Density Lipoprotein) ร่างกายสร้างขึ้นจากตับและลำไส้เล็ก (เป็นส่วนน้อย) ประกอบด้วยไตรกลีเซอไรด์ ร้อยละ 51 ทำหน้าที่ขนส่ง ไตรกลีเซอไรด์ที่ร่างกายสร้างขึ้นจากตับไปยังผนังหลอดเลือด เนื้อเยื่อไขมันและกล้ามเนื้อ



เรี่มมาใช้ทางการแพทย์ ค.ศ.1985 ซึ่งได้รับอนุมัติจาก FDA สรอ.ให้แพทย์ใช้ฉะเพาในเด็กที่มีร่างกายเจริญเติบโตไม่เป็นไปตามปกติ เช่น เด็กเติบโตช้าโดยไม่ทราบสาเหตุ



เป็นเซลล์ต้นแบบ(ต้นกำเนิด)พบในรกของเด็กแรกเกิด   หน้าที่ของสเต็มเซลล์คือการทำเซลล์ใหม่เพื่อมาทดแทนแซลล์เก่า สเต็มเซลล์คือแซลล์ที่มีหน้าที่จัดจำหน่ายแซลล์ใหม่


CHECKSUKKAPHAP.COM
เลขที่ 598 ชั้น 6 ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
095-515-9229
ข้อกำหนดและเงื่อนไข ความเป็นส่วนตัว