เช็คสุขภาพ : ที่นี่ ... มีคำตอบให้ทุกคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน
หน้าแรก / บทความ / แพทย์เตือนคนไทยระวังโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยเบาหวาน
โดย : บริษัท ไมน์ ทัช จำกัด
ทบทวนบทความโดย : ทีมเช็คสุขภาพ
แพทย์เตือนคนไทยระวังโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยเบาหวาน

แพทย์เตือนคนไทยระวังโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยเบาหวาน เปรียบเสมือนระเบิดเวลา เผยงานวิจัยล่าสุดของยาลดน้ำตาลในเลือดกลุ่มใหม่ มีการศึกษาถึงประโยชน์และความปลอดภัยในคนไข้เบาหวานที่มีหรือไม่มีโรคหัวใจร่วมด้วย

  • อุบัติการณ์ของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ใน 10 ปี ข้างหน้า

แพทย์เผยปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ถึง 4.8 ล้านคนในประเทศไทย ซึ่งโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นี้หากผู้ป่วยไม่คอยดูแลสุขภาพ และควบคุมระดับน้ำตาลก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ตาบอด ไตวาย การรักษาโดยการตัดแขน / ขา หรือ การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร คาดว่าจะมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคเบาหวานชนิดที่ 2 กว่า 80,000 คนต่อปีในประเทศไทย

นายแพทย์เพชร รอดอารีย์ เลขาธิการสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นเหมือนระเบิดเวลาในประเทศของเรา แต่ละปีมีผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มมากขึ้น จากรายงานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) ปี 2561 เปิดเผยว่าผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เข้ารับการรักษาในระบบโรงพยาบาลของรัฐบาล พบว่ายังมีสัดส่วนของผู้ป่วยที่ยังไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสะสมได้ตามเป้าหมายสูงอยู่ ซึ่งส่งผลสร้างภาระเพิ่มขึ้น และเป็นปัญหาซึ่งกระทบต่อระบบสาธารณสุข รวมทั้งยังสร้างความลำบากให้กับชีวิตของผู้ป่วย และครอบครัว จึงอยากแนะนำให้ทางภาครัฐ แพทย์ และผู้ป่วย ป้องกัน ควบคุม และตรวจวินิจฉัยตั้งแต่ในระยะแรกเริ่มซึ่งหากทำตามคำแนะนำเช่นนี้จะสามารถลดอัตราผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 รายใหม่ได้ร้อยละ 20 และเพิ่มจำนวนเคสผู้ป่วยที่สามารถควบคุมโรคได้ตามเป้าหมายได้ร้อยละ 20 เช่นกัน”

ศาสตราจารย์ นายแพทย์จิลส์ มองเตเลสโกต์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ แห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยฝรั่งเศส (France University Hospital) กล่าวว่า “ผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ส่วนมากจะเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนหลอดเลือดหัวใจ โดยเฉพาะโรคหัวใจล้มเหลว (HF) เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดในช่วงต้นและมักไม่สามารถตรวจพบในผู้ป่วยโรคเบาหวาน แม้ว่าจะมีการควบคุมปัจจัยเสี่ยงแล้ว ผู้ป่วยโรคเบาหวานก็ยังคงมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคหัวใจล้มเหลวอยู่”

โรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2

โรคเบาหวานเป็นโรคที่มีอัตราการเพิ่มที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประชากรทั่วโลก และยังเป็นโรคที่มีปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคแทรกซ้อน และต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว (HF) และโรคไตเรื้อรัง (CKD) ซึ่งมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นตามอายุของประชากร และปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง เช่น โรคอ้วน  โรคหัวใจล้มเหลวซึ่งมีมากกว่า 23 ล้านคน หรือโรคไตเรื้อรังซึ่งมีผู้ป่วยมากถึง 200 ล้านคน และ ผู้ป่วยกว่า 422 ล้านคนที่ต้องทนทุกข์กับโรคเบาหวาน (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2) ซึ่งมีอัตราส่วนสูงที่จะพัฒนาไปเป็นโรคไตเรื้อรัง หรือโรคหัวใจล้มเหลว หรืออาจจะทั้ง 2 โรค โดยจากการศึกษาพบว่าโรคไตเรื้อรังนั้นเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด  ผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มักมีโรคประจำตัวหลายอย่างซึ่งส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้น ในสหรัฐอเมริกา ร้อยละ 71 ของผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีความดันโลหิตสูง ในขณะที่ร้อยละ 65  มีภาวะไขมันผิดปกติ และร้อยละ 85 มีภาวะน้ำหนักตัวมากเกินปกติ

ผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ และหัวใจล้มเหลว ที่อาการไม่ดี และอัตราการรอดชีวิตต่ำ แม้มีรายงานบ่งชี้ว่าการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเข้มงวดจะช่วยให้หลอดเลือดเล็กดีขึ้น แต่ผลที่มีต่อหลอดเลือดขนาดใหญ่ยังไม่ชัดเจน นอกจากนี้ แพทย์ยังมีความกังวลว่าการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเข้มงวดก็อาจมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นของภาวะแทรกซ้อนของหลอดเลือดหัวใจและอัตราการตาย

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 กับการรักษาในระยะเริ่มต้นอย่างเข้มงวด

ในการศึกษาตามกลุ่มย้อนหลังของสหราชอาณาจักรโครงการหนึ่ง แสดงให้เห็นว่า ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีระดับน้ำตาลสะสมมากกว่า 7 และไม่ได้รับการรักษาอย่างเข้มงวดมาเป็นเวลา 1 ปี มีความเสี่ยงต่อการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย (Myocardial Infarction) เพิ่มขึ้นร้อยละ 67 การเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเพิ่มขึ้นร้อยละ 64 สมองขาดเลือดร้อยละ 51 และ ความเสี่ยง Composite Cardiovascular Event เพิ่มขึ้นร้อยละ 62 เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยที่มีระดับน้ำตาลสะสมน้อยกว่า 7 และมีการรักษาอย่างเข้มงวดมาเป็นเวลา 1 ปี หลังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 การได้รับการรักษาอย่างเข้มงวดล่าช้าทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงนานโดยไม่จำเป็น

โรคเบาหวาน เป็นโรคที่มีอาการต่างๆ จากหลายปัจจัย และกระทบกับอวัยวะหลายส่วน การจัดการกับโรคจึงต้องใช้การผสมผสานการรักษาหลายๆ ทางเข้าด้วยกัน การที่ผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากการให้ยาเป็นอุปสรรคต่อความร่วมมือในการรักษา การที่ผู้ป่วยมีน้ำหนักลดลงมากกว่าร้อยละ 3 ในช่วงระยะเวลา 1 ปีเกี่ยวเนื่องกับความร่วมมือในการใช้ยาที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในผู้ป่วยมากกว่าร้อยละ   1

ทางเลือกในการรักษาโรคเบาหวานในปัจจุบัน

ปัจจุบันนับได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนในการรักษาโรคเบาหวาน เนื่องจากข้อแนะนำการรักษาโรคเบาหวาน ของทั้ง สมาคมโรคต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึม และสมาคมแพทย์โรคหัวใจทั่วโลก ได้มีการระบุถึงโรคทางด้านหลอดเลือดหัวใจและโรคหัวใจล้มเหลวซึ่งถือเป็นภาวะแทรกซ้อนสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยมีการแนะนำการรักษาและยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อนดังที่กล่าวมา

จากผลงานวิจัยล่าสุด ของยาเม็ด ชนิดรับประทาน ในกลุ่มที่มีกลไกการออกฤทธิ์ที่ไต โดยมีการขับน้ำตาลออกทางปัสสาวะ ได้มีการนำเสนอในงานประชุมของแพทย์โรคหัวใจ โดยสมาคมโรคหัวใจสหรัฐฯ (American Heart Association หรือ AHA) เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ณ เมืองชิคาโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ยืนยันถึงคุณประโยชน์ของการใช้ยาที่มีกลไกขับน้ำตาลออกทางปัสสาวะ และงานวิจัยนี้ได้มีการให้พิจารณาใช้ยาที่มีกลไกขับน้ำตาลออกทางปัสสาวะ เป็นทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ตั้งแต่ระยะแรกๆ ทั้งที่ยังไม่มีภาวะของโรคหลอดเลือดหัวใจหรือมีโรคหลอดเลือดหัวใจแล้วด้วย งานวิจัยดังกล่าวถือเป็นการศึกษาวิจัยในคนไข้เบาหวานเกี่ยวกับผลทางหลอดเลือดหัวใจที่ใหญ่ที่สุดงานวิจัยหนึ่ง โดยสุ่มทำในผู้ป่วยจำนวน 17,160 คนจาก 882 แห่งใน 33 ประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย

11/12/2018
บทความที่เกี่ยวข้อง

แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ผนึกกำลัง สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย



มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชนร่วมมือกับสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย รณรงค์คนไทยใส่ใจสุขภาพ



พบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเอริส ดีท็อกซ์ ทริปเปิ้ล xxx และ เอริส By ซีเครซซ์ ไมนซ์ โฆษณาเกินจริงอวดอ้างลดน้ำหนักทางสื่อออนไลน์


CHECKSUKKAPHAP.COM
เลขที่ 598 ชั้น 6 ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
095-515-9229
ข้อกำหนดและเงื่อนไข ความเป็นส่วนตัว