20 พฤษภาคม 2562, กรุงเทพ - นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ (บอร์ดวัคซีน) กล่าวถึงความคืบหน้าการเพิ่มวัคซีนโรคพื้นฐานของประเทศไทย ว่า วัคซีนป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรตา ขณะนี้ผ่านความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแล้ว และที่ผ่านมาก็มีการทดลองนำร่องใช้วัคซีนหลายพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อให้ทราบถึงข้อดีข้อเสีย มีข้อบกพร่องอะไรระหว่างการใช้งานหรือไม่ เช่น การขนส่ง การจัดเก็บวัคซีน คนให้วัคซีนให้อย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งก็พบว่าวัคซีนให้ผลดี
โดยคาดว่าในปี 2563 จะประกาศใช้เป็นวัคซีนพื้นฐานของประเทศไทยตัวต่อไป ซึ่งวัคซีนโรตาจะให้แก่เด็กแรกเกิดทุกคนในช่วง อายุ 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน ซึ่งจะต้องหยอดให้ครบ โดยมี 2 แบบ คือ แบบที่ให้เพียง 2 ครั้ง และแบบที่ให้ 3 ครั้ง ซึ่งมีประสิทธิภาพเหมือนกัน แต่การบรรจุเป็นวัคซีนพื้นฐานนั้นจะเลือกใช้วัคซีนชนิดใด ก็อยู่ที่การแข่งขันทางด้านราคา เพราะแม้วัคซีนชนิดแบบให้ 2 ครั้งจะสะดวกกว่า แต่หากราคาโดยรวมเท่ากับวัคซีนให้แบบ 3 ครั้ง เช่น 600 บาทเท่ากัน แต่ชนิดให้ 2 ครั้งก็จะตกโดสละ 300 บาท ขณะที่ให้ 3 ครั้งจะตกโดสละ 200 บาท ตรงนี้ก็ต้องมาพิจารณาและดูเรื่องของการแข่งขันทางด้านราคา
นอกจากนี้ ในปี 2564 คาดว่าจะบรรจุวัคซีนไอพีดี (IPD) ป้องกันโรคปอดบวม หูอักเสบและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งเชื้อแบคทีเรียนี้จะเกาะอยู่ที่คอมนุษย์ทุกคน แต่มีมากหรือน้อยอาจแตกต่างกันจากการดูแลตัวเอง เช่น เป็นหวัด โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ เชื่อจะไปทำลายระบบทางเดินหายใจให้เกิดการอักเสบ และลงไปที่ปอดกลายเป็นโรคปอดบวม หากแย่กว่านั้นจะเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดอาจทำให้เสียชีวิตได้
องค์การเภสัชกรรม (GPO) เตรียมผลิตสารสกัดน้ำมันกัญชาชนิดหยดใต้ลิ้น 3 สูตร สูตรที่ 1 THC สูงกว่า CBD สูตรที่ 2 CBD สูงกว่า THC และสูตรที่ 3 สัดส่วน THC และ CBD
กลุ่ม Asia Pacific Leaders Malaria Alliance (APLMA) และ World Economic Forum ร่วมกันเปิดตัวแคมเปญ M2030 Champions Council
ปัจจุบันทั่วโลกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงด้านการดูแลสุขภาพในรูปแบบใหม่อย่างรวดเร็ว