สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบกับทุกภาคส่วน รวมถึงวิถีชีวิตของคนทั่วไป และรวมไปถึงวิธีที่ผู้ป่วยจะสามารถเข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจรักษาได้ สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งในหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย จำเป็นต้องเลื่อนการนัดพบแพทย์ หรือการตรวจรักษา ซึ่งโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ด้านมะเร็งหลาย ๆ แห่ง ก็ได้ขอเลื่อนการรักษา หรือผ่าตัดในรายที่ไม่เร่งด่วนออกไป ทั้งนี้ ในหลาย ๆ ประเทศ การนัดพบแพทย์ของผู้ป่วยมะเร็งมีจำนวนลดน้อยลง ตัวอย่างการศึกษาในอินเดียแสดงให้เห็นว่า การผ่าตัดโรคมะเร็งถูกเลื่อนออกไป 59.7% เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยกว่า 50,000 ราย
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยที่รับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดีอยู่แล้ว ทั้งแวดวงสาธารณสุขและตัวผู้ป่วยเองอาจรับมือกับสถานการณ์นี้แตกต่างจากประเทศอื่น
การแพทย์สาขามะเร็งไทยปรับตัวอย่างไรรับนิวนอร์มอล
พ.ท.นพ.ไนยรัฐ ประสงค์สุข อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า บอกกับเว็บไซต์ “เช็คสุขภาพ” ว่า การรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ทุกสาขาของวงการแพทย์ก็ตื่นตัว โดยเฉพาะสาขามะเร็งก็จะพยายามจัดระบบต่าง ๆ เช่น ระบบที่จะใช้การดูแลติดตามคนไข้ ระบบการเข้ารับการรักษา รายการแยกผู้ป่วยออกจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งเสียโอกาสจากการรักษาโรค และหากคนไข้บางรายที่จำเป็นจะต้องเดินทางมายังโรงพยาบาล ก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลอย่างดี เพื่อไม่ให้มีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับไป
นพ.ไนยรัฐ ยังบอกอีกว่า สำหรับเมืองไทยแล้วจะมีการจัดหมวดหมู่คนไข้ โดยมีการติดตามคนไข้ตามมาตรฐานสากล และเป็นไปตามมาตราฐานของผู้เชี่ยวชาญของไทยอีกด้วย สำหรับสาขามะเร็ง แพทย์ก็จะดูว่าคนไข้คนไหนที่ต้องได้รับการรักษาเร่งด่วน ซึ่งคนไข้กลุ่มนี้จำเป็นที่จะต้องมารับการรักษาและห้ามเลื่อนการรักษาออกไป เพราะหากเลื่อนออกไป โอกาสที่จะรักษาคนไข้ให้หายนั้นก็จะเกิดขึ้นได้ยาก
“คนไข้มะเร็งกลุ่มแรก ๆ ที่มักให้ความสำคัญ คือคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งในระยะแพร่กระจาย และกลุ่มคนไข้มะเร็งในระยะเริ่มต้น คนไข้มะเร็ง 2 กลุ่มนี้มีโอกาสหายสูงมาก จึงจำเป็นที่จะต้องมาโรงพยาบาล โดยโรงพยาบาลแต่ละแห่ง ก็จะจัดพื้นที่ให้ปลอดภัย และพยายามให้บริการทางการแพทย์ต่าง ๆ ในจุดเดียว (One Stop Service) เช่น การลงทะเบียน การตรวจเลือด การตรวจหามะเร็ง ฯลฯ เหล่านี้พยายามจัดให้เสร็จในโซนเดียว ส่วนโซนที่มีผู้ป่วยที่เข้าข่ายสงสัยในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็จะแยกไว้อีกที่ จะไม่เอามาปนกันกับพื้นที่ทั่วไป” นพ.ไนยรัฐกล่าว
เทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้คนไข้เหมือนอยู่ใกล้หมอ
นพ.ไนยรัฐ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่รักษาเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในช่วงการพักรักษาที่บ้าน คนไข้กลุ่มนี้อาจจะไม่ต้องกลับมาโรงพยาบาลก็ได้ แต่จะทำอย่างไรให้คนไข้เหล่านี้ไม่เสียโอกาสในการติดตามโรคมะเร็งที่เพิ่งรักษาไป ทั้งนี้ โรงพยาบาลใหญ่ ๆ เช่น โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามา และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ก็ได้นำระบบติดตามคนไข้ทางออนไลน์ที่เรียกว่า Tele-medicine เข้ามาช่วยในการตรวจรักษาอาการทางออนไลน์ อย่างไรก็ตาม การใช้เทคโนโลยีแบบนี้อาจจะไม่เหมาะกับโรงพยาบาลบางแห่ง และหลายโรงพยาบาลทั่วประเทศที่ยังไม่มีเทคโนโลยีนี้ก็ยังจะต้องติดต่อกลับแพทย์ทางโทรศัพท์ หรืออีกช่องทางหนึ่งก็คือ LINE Application ซึ่งคนไข้สามารถแชทกับหมอได้ หรือจะทำ Video Call กับคนไข้ก็ทำได้เลยเช่นกัน
รับยาถึงบ้าน ลดการแออัดในโรงพยาบาล
ปัจจุบันหลายโรงพยาบาลหันมาใช้วิธีส่งยาไปถึงบ้านคนไข้ เพื่อช่วยลดความแออัดในการเข้ามาใช้บริการของคนไข้ในสถานพยาบาล
ทั้งนี้ นพ.ไนยรัฐ กล่าวว่า ปัจจุบันคนไข้ไม่จำเป็นต้องเข้ามารับยาเองที่โรงพยาบาล เพียงแต่ยังต้องโทรศัพท์มาพูดคุยกับโรงพยาบาลเพื่อที่จะมีการจัดส่งยาทางไปรษณีย์ให้ ซึ่งช่วยลดปริมาณการรอคิวของคนไข้ในโรงพยาบาลได้เป็นอย่างมาก
สถานการณ์โรคมะเร็งในเมืองไทย
มะเร็งเต้านมยังเป็นโรคมะเร็งที่เกิดอันดับ 1 ที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงในเมืองไทย ตามมาด้วยโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างจะเยอะกว่าทางประเทศฝั่งตะวันตกมากถึง 3-4 เท่า
แพทย์แนะ ปรับอาหารการกินและไลฟ์สไตล์เพื่อป้องกันมะเร็ง
นพ.ไนยรัฐ แนะนำว่า ไลฟ์สไตล์และอาหารการกินมีส่วนสำคัญต่อการเกิดโรคมะเร็ง ดังนั้นจึงต้องใส่ใจให้มาก ส่วนสำหรับมะเร็งเต้านมในผู้หญิง แนะนำว่า ให้มีการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง อาจจะทำอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยเริ่มจากการดูขนาดและรูปร่างภายนอกของเต้านม ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หรือใช้วิธีเอาสองมือคลำดูว่ามีก้อนบริเวณเต้านมหรือไม่
นอกจากนี้ อาจทำได้โดยวิธีการตรวจบริเวณรักแร้ร่วมด้วย เพราะบางทีอาจมีโอกาสที่มะเร็งจะแพร่กระจายไปที่รักแร้ได้ สำหรับคนที่ไม่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคมะเร็งก็จะตรวจค่อนข้างยาก เป็นไปได้ แนะนำให้พบแพทย์ในสาขามะเร็งโดยตรงเพื่อตรวจปีละครั้ง
อย่างไรก็ตามในช่วงล็อกดาวน์หรือช่วงโควิดอาจจะเดินทางไปโรงพยาบาลลำบาก แต่สำหรับหลายโรงพยาบาลในไทยแล้ว มีการจัดระบบเช็คอัพมาอย่างดีพอสมควร แนะนำให้ตรวจโดยตรงกับแพทย์จะเป็นที่น่าเชื่อถือที่สุด ซึ่งแพทย์จะได้แนะนำให้พยายามลดปัจจัยความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งด้วย เช่น การสูบบุหรี่ และการดื่มสุรา ซึ่ง 2 ปัจจัยนี้ทำให้เกิดมะเร็งได้ง่าย โดยเฉพาะ มะเร็งปอด มะเร็งศีรษะและลำคอ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
นอกจากนี้ นพ.ไนยรัฐ ยังแนะให้ลดอาหารประเภทหมักดอง และเนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการต่าง ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงในการทำให้เกิดมะเร็งได้อีกด้วย
ข้อมูลจาก: การแถลงข่าวกลุ่มย่อย Virtual Press Briefing “New Normal, Same Cancer” โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็ง วันที่ 10 ธันวาคม 2563 ผ่านแอพพลิเคชั่น Zoom