ภาวะมีกลิ่นปากรุนแรง หรือ อาการปากเหม็น ล้วนแล้วแต่เป็นอาการที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งยังสร้างความอับอาย ฉะนั้น หากคุณมีปัญหาภาวะมีกลิ่นปากรุนแรง คุณควรไปพบทันตแพทย์ เพราะภาวะมีกลิ่นปากรุนแรงเกิดได้จากหลายปัจจัย ทันตแพทย์จะได้ช่วยหาสาเหตุและวิธีการรักษาที่ดีที่สุดได้
- อะไรคือสัญญาณหรือลักษณะอาการของภาวะมีกลิ่นปากรุนแรง
กลิ่นปากรุนแรงจะมีกลิ่นแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับแต่ละปัจจัยและสาเหตุภายใน บางคนมีความกังวลใจมากเกี่ยวกับภาวะมีกลิ่นปากแม้ว่ากลื่นนั้นจะเล็กน้อยมากหรือแทบจะไม่มีกลิ่นจากปากเลยก็ตาม ในขณะที่บางคนกลับไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีกลิ่นปากที่รุนแรงอยู่ นั่นเป็นเพราะมันยากที่จะหาวิธีการเพื่อจะได้กลิ่นปากตัวเอง ซึ่งอาจจะต้องถามเพื่อนสนิทหรือญาติเกี่ยวกับกลิ่นปากเราเพื่อความแน่ใจ
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น หากคุณยังกังวลใจเกี่ยวกับอาการ คุณควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัช
การรักษา
- ฉันควรทำอย่างไร
หลายกรณีที่ผู้มีภาวะมีกลิ่นปากรุนแรงสามารถรักษาตัวอยู่ที่บ้านได้ ซึ่งการรักษาตัวอยู่ที่บ้านนั้นทำได้โดย
- ฝึกรักษาความสะอาดโดยการแปรงฟันและทำความสะอาดลิ้นอย่างน้อยสองครั้งต่อวันร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่เป็นพวกยาสูบ
- หลีกเลี่ยงอาหารทีทำให้มีกลิ่นปาก เช่นกระเทียม, หอม,และกาแฟ
- ไม่ดื่มแอลกอฮอล์
- รับประทานพาสลีย์และมิ้นท์เพื่อเป็นการกลบกลิ่นปากที่รุนแรงชั่วคราว
- เมื่อไหร่ที่ฉันควรไปพบทันตแพทย์
ถ้าคุณเริ่มมีกลิ่นปาก รุนแรงให้ตรวจสอบพฤติกรรมการดูแลความสะอาดช่องปาก ลองปรับเปลี่ยนการพฤติกรรม เช่น แปรงฟันและแปรงลิ้นหลังรับประทานอาหาร ใช้ไหมขัดฟัน และดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ
หากกลิ่นปากยังคงรุนแรงอยู่หลังจากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว ให้พบทันตแพทย์ หากทันตแพทย์วินิจฉัยอาการว่ามาจากสาเหตุที่หนักกว่ากลิ่นปากธรรมดา ทันตแพทย์จะส่งคุณพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของกลิ่นต่อไป
การป้องกัน
- ฉันจะป้องกันได้อย่างไร
การลดอาการ หรือป้องกันภาวะมีกลิ่นปากรุนแรง :
- การแปรงฟันหลังจากรับประทานอาหาร เก็บแปรงสีฟันไว้ที่ทำงานเพื่อแปรงฟันหลังรับประทานอาหารเสร็จ ควรแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูโอไรด์อย่างน้อยวันละสองครั้งโดยเฉพาะหลังรับประทานอาหาร ทั้งนี้ยาสีฟันที่มีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคทีเรียจะช่วยลดอาการการมีกลิ่นปากรุนแรงได้
- การใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละครั้ง การใช้ไหมขัดฟันที่เหมาะสมจะช่วยขจัดเศษอาหารและคราบพลัคที่อยู่ระหว่างร่องฟัน ซึ่งจะเป็นการช่วยควบคุมอาการมีกลิ่นปากรุนแรงได้
- การแปรงลิ้น ลิ้นของคุณเป็นแหล่งที่อยู่ของแบคทีเรีย การคอยแปรงลิ้นจะช่วยลดอาการกลิ่นปากได้ หลายคนมีลิ้นที่เป็นแหล่งเติบโตของแบคทีเรีย (เช่น ลิ้นของผู้ที่สูบบุหรี่ หรือปากแห้ง) เหมาะแก่การใช้ที่ขูดลิ้นหรือแปรงสีฟันที่มีที่ทำความสะอาดลิ้นในตัว
- การทำความสะอาดฟันปลอม หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในช่องปาก หากคุณใส่ฟันปลอมชนิดติดแน่น หรือฟันปลอมบางส่วน หรือฟันปลอมทั้งหมด ควรทำความสะอาดอย่างน้อยวันละครั้งหรือตามตำแนะนำของแพทย์ และหากคุณใส่รีเทนเนอร์หรือฟันยางให้ทำความสะอาดทุกครั้งก่อนใส่เข้าปาก ทันตแพย์จะแนะนำวิธีการทำความสะอาดแต่ละผลิตภัณฑ์ได้ดีที่สุด
- หลีกเลี่ยงการทำให้ปากแห้ง การรักษาปากให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอทำได้โดยหลีกเลี่ยงสารยาสูบ ดื่มน้ำเยอะๆ ที่ไม่ใช่กาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ หรือแอลกอฮอล์ ซึ่งจะทำให้ปากแห้งได้ เคี้ยวหมากฝรั่งหรืออมลูกอมแบบไม่มีน้ำตาลเพื่อกระตุ้นน้ำลาย หากคุณมีอาการปากแห้งอย่างต่อเนื่องทันตแพทย์หรือแพทย์จะแนะนำให้ใช้น้ำลายเทียม หรือยารับประทานเพื่อกระตุ้นให้เกิดน้ำลาย
- การดูแลโภชนาการอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นสาเหตุการเกิดกลิ่นปากรุนแรง หลีกเลี่ยงอาหารย่อยยาก น้ำตาลเยอะ
- เปลี่ยนแปรงสีฟันเป็นประจำ การเปลี่ยนแปรงเมื่อแปรงสีฟันบานเป็นฝอย หรือทุกสามหรือสี่เดือนและควรเลือกแบบแปรงขนนุ่ม
- จัดตารางพบทันตแพย์ ให้เป็นปกติอย่างน้อย หนึ่งถึงสองครั้งต่อปีเพื่อฟันหรือฟันปลอมของคุณพร้อมใช้งานและสะอาด
(http://www.healthline.com/health/bad-breath#Diagnosis5)
(http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bad-breath/basics/lifestyle-home-remedies/con-20014939)
สลิล มูสิกรังษี จบการศึกษาระดับปริญญาโท คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ
อดีตเจ้าหน้าที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ พนักงานดูแลพื้นที่เช่าสำนักงานบริษัทในเครือสิงห์เอสเตท และพนักงานดูแลพื้นที่จัดงานแสดงโชว์เครื่องประดับบริษัทอินฟอร์มา มีประสบการณ์เกี่ยวกับเอกสารการแปลทั้งอังกฤษเป็นไทยและไทยเป็นอังกฤษ ทั้งเอกสารราชการ สัญญาเช่าพื้นที่ งานวิจัย
ปัจจุบันสลิล มูสิกรังษี เป็นนักแปลและล่ามอาชีพสายกฎหมายและการแพทย์