สรรพคุณเจอร์เมเนียม:
เจอร์เมเนียม คือธาตุที่มีสารเคมีชนิดหนึ่ง ใช้เป็นยารักษาโรค แม้มีข้อควรระวังเกี่ยวกับความปลอดภัย แต่เจอร์เมเนียมยังถูกใช้เพื่อ:
- รักษาภาวะโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งโรคความดันโลหิตูง, โรคคอลเรสเตอรอลสูงและโรคหัวใจ
- อาการป่วยที่เกี่ยวกับดวงตา รวมทั้ง ต้อหินและต้อกระจก
- อาการป่วยที่เกี่ยวกับตับ รวมทั้ง โรคตับและโรคตับแข็ง
- โรคข้อเข่าเสื่อม
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- ปวด/เจ็บ
- โรคกระดูกอ่อน (โรคกระดูกพรุน)
- อาการอ่อนล้า
- โรคเอดส์
- ภาวะพิษจากโลหะหนัก รวมทั้ง พิษสารปรอทและพิษสารแคทเมี่ยม
- โรคซึมเศร้า
- โรคมะเร็ง
- โรคภูมิแพ้อาหาร
- โรคติดเชื้อยิสต์และโรคติดเชื้ออื่นๆ
ใช้เจอร์เมเนียม เพื่อเพิ่มการไหวเวียนโลหิตไปยังสมอง ซึ่งเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ.
กลไกการออกฤทธิ์:
เนื่องจากยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับเจอร์เมเนียมไม่มากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อกันว่าจอร์เมเนียมอาจออกฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ นอกจากนี้อาจมีคุณสมบัติสารต้านอนุมูลอิสระและส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน.
ข้อควรระวังและคำเตือน:
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้เจอร์เมเนียม:
ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่:
- ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะให้นมบุตรนั้น ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
- กำลังใช้ยาอื่น ๆ รวมถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์
- มีอาการแพ้สารเจอร์เมเนียม ยาอื่น ๆ หรืออาหารเสริมอื่น ๆ
- มีโรคอื่น ๆ มีความผิดปกติหรือพยาธิสภาพอื่น ๆ
- มีอาการแพ้อื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูดหรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ
ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเจอร์เมเนียมนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
เจอร์เมเนียมปลอดภัยหรือไม่:
เจอร์เมเนียมมีแนวโน้มปลอดภัยเมื่อรับประทานปริมาณปกติที่พบในอาหาร เพิ่มเจอร์เมเนียม ปริมาณ 0.4 – 3.4 มิลลิกรัม ในอาหารประจำวัน.
Spirogermanium ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะของเจอร์เมเนียม มีแนวโน้มปลอดภัยเมื่อฉีดเข้าเส้นเลือดดำ (โดยเส้นที่สี่) ในปริมาณที่แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาติ. Propagermanium ซึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของเจอร์เมเนียม มีแนวโน้มปลอดภัยเมื่อรับประทานในปริมาณยาที่แนะนำได้นานถึง 7 เดือน.
เจอร์เมเนียม มีแนวโน้มปลอดภัยเมื่อรับประทานในรูปแบบแร่ธาตุและในรูปแบบการผสมกัน เช่น เจอร์เมเนียมออกไซด์ และเจอร์เมเนียม แลคเตรท-ซิแตรด.
ข้อควรระวังและคำเตือน:
ช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร: เจอร์เมเนียม ไม่ปลอดภัยในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร มีจำนวนมากกว่า 30 ราย เสียชีวิตจากการใช้เจอร์เมเนียม ควรเลี่ยงการใช้เพื่อความปลอดภัย
ผลข้างเคียง :
ผลข้างเคียงอะไรที่อาจเกิดจาก เจอร์เมเนียม
มีรายงานเกี่ยวกับความล้มเหลวของไตและการเสียชีวิตกับการใช้เจอร์เมเนียมในรูปแบบนี้มีมากกว่า 30 ฉบับ. สารตัวนี้จะสร้างในร่างกายและสามารถทำลายอวัยวะสำคัญเช่น ตับ และสามารถส่งผลให้เกิดโรคโลหิตจาง, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, โรคเส้นประสาท, และผลข้างเคียงอื่นๆ.
ในบางราย อาจได้รับผลข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลข้างเคียงใด ๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนใช้ เจอร์เมเนียม
ปฏิกิริยาระหว่างยา:
เจอร์เมเนียมอาจมีปฏิกิริยาระหว่างยาหรือพยาธิสภาพปัจจุบัน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนใช้
ผลิตภัณฑ์ที่อาจมีปฏิกิริยาระหว่างกับเจอร์เมเนียม ได้แก่:
- ยาฟูโรซีไมด์
นักวิทยาศาสตร์บางท่านพบว่าเจอร์เมเนียมอาจลดประสิทธิภาพการทำงานของยายาฟูโรซีไมด์ (แลคซิส) ลง แต่ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะทราบว่าเป็นข้อกังวลสำคัญหรือไม่
ขนาดยา:
ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ปรึกษาแพทย์ประจำตัวหรือแพทย์ก่อนใช้
ขนาดการใช้เจอร์เมเนียมปกติอยู่ที่เท่าไร:
ขนาดปกติของการใช้เจอร์เมเนียมอาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพและการใช้ยาอื่น ๆ อาหารเสริมสมุนไพรไม่ปลอดภัยเสมอไป ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์เพื่อทราบขนาดยาที่เหมาะสม
เจอร์เมเนียมมีจำหน่ายในรูปแบบใด:
อาจมีอยู่ในรูปแบบต่อไปนี้:
- ยาแคบซูล
- ยาน้ำไอโอนิค (ของเหลวไอโอนิค)