เช็คสุขภาพ : ที่นี่ ... มีคำตอบให้ทุกคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน
หน้าแรก / บทความ / ชะเอม (Licorice)
โดย :
ทบทวนบทความโดย :
ชะเอม (Licorice)

สรรพคุณของชะเอม
ชะเอมเป็นสมุนไพรที่มีกรดกลีซีร์ริซิกเป็นส่วนประกอบ (glycyrrhizic acid) ซึ่งก่อให้เกิดภาวะโรคแทรกซ้อนเมื่อบริโภคในปริมาณมาก
สรรพคุณการรักษาโรคของชะเอม
• อาการของโรคระบบการย่อยอาหาร เช่น แผลในกระเพาะอาหาร อาการแสบร้อนกลางอก อาการเสียดท้อง โรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง
• เจ็บคอ โรคหลอดลมอักเสบ การไอ การติดเชื้อซึ่งมีสาเหตุจากแบคทีเรียหรือไวรัส
• โรคแอดดิสัน
• อาการของสตรีวัยหมดระดู
• โรคกระดูกพรุน โรคข้อเสื่อม
• โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)
• ความผิดปกติของตับ
• โรคมาลาเรีย
• วัณโรค
• ระดับโพแทสเซียมสูงในเลือด
• อาหารเป็นพิษ
• อาการเพลียเรื้อรัง (CFS)
• ฝี
• การผ่าตัด
• ผื่นคัน
• คอลเลสเตอรอลสูง
เมื่อใช้ทาบนผิวหนัง การออกฤทธิ์ของชะเอมจะทำช่วย ลดความมันของเส้นผม รักษาอาการคัน ผิวอักเสบ (โรคเรื้อนกวาง) เลือดไหล เจ็บปากเปื่อย สำหรับโรคสะเก็ดเงิน การลดน้ำหนัก หรือผิวมีจุดสีน้ำตาล (เมลิสมา (melisma))
เมื่อใช้ทางหลอดเลือดดำ ชะเอมเป็นที่นิยมใช้ (โดย IV) รักษาโรคตับอักเสบบีและซี แผลเปื่อยในปาก (ไลเคนแพลนัส (lichen planus)) สำหรับผู้ป่วยโรคตับอักเสบซี

กลไกการออกฤทธิ์:
งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าชะเอมประกอบด้วยสารเคมีบางอย่าง ช่วยลดการบวมและการขับเมือก บรรเทาอาการไอ และสร้างสารเคมีในร่างกายเพื่อรักษาแผล

ข้อควรระวังและคำเตือน
สิ่งที่ควรทราบก่อนใช้ชะเอม
ข้อกำหนดในการใช้ชะเอมนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าการใช้ยาทั่วไป โดยปกติชะเอมถือว่าปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ที่กำลังให้การรักษาคุณ

ความปลอดภัยของชะเอม
ข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในการใช้ชะเอม ดังนี้
• รับประทานในปริมาณเทียบเท่าอาหาร ชะเอมค่อนข้างปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่
• รับประทานในปริมาณที่มากขึ้นเพื่อใช้ในการรักษา
• ใช้ทาบนผิวหนังในระยะเวลาสั้น
• ไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก เป็นเวลานานกว่า 4 สัปดาห์ หรือปริมาณที่น้อยในระยะยาว
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงจากการใช้ชะเอม
ถึงแม้ชะเอมเป็นสมุนไพรที่ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่การบริโภคชะเอมเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือนานกว่านั้น อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ ดังนี้
• ความดันโลหิตสูง
• ระดับโพแทสเซียมต่ำ
• ความอ่อนแอ
• อัมพาต
• ความเสียหายของสมอง
• เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า
• ไม่มีประจำเดือนในผู้หญิง
• ปวดศีรษะ
• การเก็บรักษาน้ำและโซเดียม
• ความสนใจทางเพศลดลงในผู้ชาย
อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนและอาจมีผลข้างเคียงอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น หากมีความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์
ปฏิกิริยาระหว่างการใช้ยา
เกิดปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อใช้ชะเอม
ชะเอมอาจทำปฏิกิริยากับยาที่คุณกำลังใช้อยู่หรือส่งผลกระทบกับการรักษาของคุณในปัจจุบัน ดังนั้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้
ยาบางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับชะเอมเมื่อใช้ควบคู่กัน
• ยาวาร์ฟาริน (Warfarin เช่น Coumadin)
• ไดจอกซิน (Digoxin (เช่น Lanoxin))
• เอสโตรเจน (Estrogens (เช่น Premarin)), เอทินิล เอสตราไดออล (ethinyl estradiol), เอสตราไดออล (estradiol) และอื่น ๆ
• เอธาครินิคแอซิด (Ethacrynic Acid (เช่น Edecrin))
• ฟูโรซีไมด์ (Furosemide (เช่น Lasix))
• ยาที่เปลี่ยนแปลงโดยตับ สารตั้งต้นไซโตโครม พี450 2บี6 (CYP2B6) (Cytochrome P450 2B6 substrates) เช่น เคตามีน (ketamine เช่น Ketalar), ฟีโนบาร์บิทัล(phenobarbital), ออเฟเนดรีน (orphenadrine เช่น Norflex), เซโคบาร์บิตาล (secobarbital เช่น Seconal), เดกซาเมทาโซน (dexamethasone เช่น Decadron), สารตั้งต้นไซโตโครม พี450 2ซี9 (Cytochrome P450 2C9 (CYP2C9) substrates), เซเลโคซิบ (celecoxib เช่น Celebrex), ไดโคลฟีแนค (diclofenac เช่น Voltaren), ฟลูวาสแตติน (fluvastatin เช่น Lescol), ไกลพิไซด์ (glipizide เช่น Glucotrol), ไอบูโพรเฟน (ibuprofen เช่น Advil, Motrin), เออร์บีซาร์แทน (irbesartan เช่น Avapro), ลอซาร์แทน (losartan เช่น Cozaar), เฟนิโทอิน(phenytoin เช่น Dilantin), ไพร็อกซิแคม (piroxicam เช่น Feldene), ทาม็อกซิเฟน(tamoxifen เช่น Nolvadex), โทลบูตาไมด์(tolbutamide เช่น Tolinase), ทอร์ซีไมด์(torsemide เช่น Demadex), สารตั้งต้นไซโตโครม พี450 3เอ4 (Cytochrome P450 3A4 (CYP3A4) substrates), โลวาสแตติน(lovastatin เช่น Mevacor), คีโตโคนาโซล(ketoconazole เช่น Nizoral), ไอทราโคนาโซล(itraconazole เช่น Sporanox), เฟกโซเฟนาดีน (fexofenadine เช่น Allegra), ไตรอาโซแลม (triazolam เช่น Halcion) และอื่น ๆ อีกมากมาย
• ยารักษาความดันโลหิตสูง (ยาลดความดันโลหิต) เช่น แคปโตพริล (captopril เช่น Capoten), อีนาลาพริล (enalapril เช่น Vasotec), ลอซาร์แทน (losartan เช่น Cozaar), วาลซาร์แทน (valsartan เช่น Diovan), ดิลไทอะเซม ( diltiazem เช่น Cardizem), แอมโลดิปีน (amlodipine เช่น Norvasc), ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ (hydrochlorothiazide เช่น HydroDIURIL), ฟูโรซีไมด์ (furosemide เช่น Lasix) และอื่น ๆ อีกมากมาย
• ยาบางชนิดที่ใช้รักษาการอักเสบ (ยาที่ใช้ลดอาการบวมและอักเสบของทางเดินหายใจ) เช่น เดกซาเมทาโซน (dexamethasone เช่น Decadron), ไฮโดรคอร์ติโซน (hydrocortisone เช่น Cortef), เมทิลเพรดนิโซโลน (methylprednisolone เช่น Medrol), เพรดนิโซน (prednisone เช่น Deltasone)
• ยาน้ำ (ยาขับปัสสาวะ) คลอโรไทอะไซด์ (chlorothiazide เช่น Diuril), คลอธาลิโดน (chlorthalidone เช่น Thalitone), ฟูโรซีไมด์ (furosemide เช่น Lasix), ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ (hydrochlorothiazide เช่น HCTZ, HydroDIURIL, Microzide) และอื่น ๆ
การใช้ชะเอมอาจส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยตามลักษณะ ดังนี้
• หญิงตั้งครรภ์และผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร
• โรคหัวใจ
• ความดันโลหิตสูง
• ความเจ็บป่วยของกล้ามเนื้อมีสาเหตุจากปัญหาเส้นประสาท (ภาวะกล้ามเนื้อตึงตัวมาก)
• ระดับโพแทสเซียมต่ำในเลือด (ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ)
• โรคไต
• ปัญหาทางเพศในผู้ชาย
• การผ่าตัด

ปริมาณการใช้ยา
ข้อมูลนี้ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้ยาชนิดนี้ทุกครั้ง

ปริมาณทั่วไปในการใช้ชะเอม
ผู้ป่วยแต่ละคนอาจใช้ชะเอมในปริมาณที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพ และเงื่อนไขอื่น ๆ สมุนไพรไม่ได้รับรองความปลอดภัยเสมอไป ควรสอบถามแพทย์สำหรับปริมาณการใช้ที่เหมาะสมกับตนเอง

ชนิดรับประทาน
สำหรับแก้ท้องเสีย
• 1 มล. ของผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของชะเอม มิลค์ ทิสเซิล (milk thistle), ใบเปปเปอร์มินท์ (peppermint leaf), คาโมมายล์ สายพันธุ์เยอรมัน (German chamomile), ยี่หร่า, ซีแลนดีน (celandine), ตังกุย, เลมอนบาล์ม (lemon balm) แนะนำให้ใช้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 4 สัปดาห์
• 1 มล. ของผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของชะเอม, มิลค์ ทิสเซิล (milk thistle), ใบเปปเปอร์มินท์ (peppermint leaf), คาโมมายล์ (chamomile), ซีแลนดีน (celandine), ตังกุย และ เลมอนบาล์ม (lemon balm เช่น STW-5-S, Steigerwald Arzneimittelwerk GmbH) แนะนำให้ใช้ 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 4 สัปดาห์
• 1 มล.ของผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของต้นมัสตาร์ดคราวด์ (clown mustard plant), คาโมมายล์ สายพันธุ์เยอรมัน (German chamomile), เปปเปอร์มินท์ (peppermint), ยี่หร่า, ชะเอม และ เลมอนบาล์ม (lemon balm เช่น STW 5-II, Steigerwald Arzneimittelwerk GmbH) แนะนำให้ใช้ 3 ครั้งต่อวัน จนถึง 12 สัปดาห์
สำหรับการฟื้นฟูหลังการผ่าตัด:
ลูกกวาดสำหรับเฉพาะโรค (เส้าลิน (Sualin) แฮมดาร์ด ฟาร์มา (Hamdard Pharma), อินเดีย) ประกอบด้วย ชะเอม 97 มก. แนะนำให้ดูดเป็นเวลา 30 นาทีก่อนอาการชา

ชนิดทา
สำหรับอาการคัน และอักเสบผิวหนัง (กโรคเรื้อนกวาง)
ผลิตภัณฑ์เจลที่มีสารสกัดจากรากชะเอม 1% หรือ 2% แนะนำให้ใช้ 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์
สำหรับการฟื้นฟูหลังการผ่าตัด:
แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปาก 30 มล.ประกอบด้วย ชะเอม 0.5 กรัม อย่างน้อย 1 นาที เริ่ม 5 นาทีก่อนใช้ท่อหายใจ

รูปแบบของชะเอม
ชะเอมอาจพบได้ในรูปแบบต่อไปนี้
• เจล
• แคปซูล

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์, การวินิจฉัย หรือการรักษาแต่อย่างใด

แหล่งที่มา
Licorice. www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-881-licorice.aspx?activeingredientid=881. สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2559
Licorice. http://www.healthline.com/health/licorice-the-sweet-root. สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2559
Licorice. https://draxe.com/licorice-root/. สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2559

23/02/2018
บทความที่เกี่ยวข้อง
CHECKSUKKAPHAP.COM
เลขที่ 598 ชั้น 6 ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
095-515-9229
ข้อกำหนดและเงื่อนไข ความเป็นส่วนตัว