หากว่าลูกของคุณรับประทานอาหารไม่หมด อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าพวกเขาเลือกกิน มีสาเหตุหลายอย่างที่เด็กๆ มีพฤติกรรมการรัปบระทานอาหารที่แปลกออกไป หนึ่งในนั้นก็คือปัญหาในระบบย่อยอาหาร

ปัญหาในระบบย่อยอาหาร : เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษากุมารแพทย์
อะไรคือสาเหตุของปัญหาในการย่อยอาหาร จากการติดเชื้อไวรัส การแพ้อาหารนำไปสู่ความเครียด ปัจจัยต่างๆ ที่เป็นไปได้มีมากมาย หากเป็นที่จิตใจของเด็กนั้นสามารถแก้ได้เองโดยไม่ต้องพึ่งยาหรือการรักษา แต่หากว่าพบอาหารต่อไปนี้ให้ปรึกษากุมารแพทย์ทันที :
1. ท้องร่วงท้องเสีย
- อุจจาระเหลว
- อุจจาระเป็นเลือด
- มีอาการท้องร่วงท้องเสียมากกว่า 5 ครั้งใน 24 ชั่วโมง
- มีอาการท้องร่วงท้องเสียนานกว่า 3 วัน
2. อาการท้องผูก
- อุจจาระเป็นเลือด
- มีการขับถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์
- อาการท้องผูกร่วมด้วยการอาเจียน มีไข้ น้ำหนักลดหรือท้องป่อง

3. อาเจียน
- มีเลือดหรือน้ำดีในอาเจียน
- มีอาการอาเจียนร่วมด้วยท้องร่วงท้องเสีย ไข้หรืออาการไม่สบายท้องต่างๆ
- เด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ปี และมีการอาเจียนมากกว่าหนึ่งวัน
- เด็กมีอาการเซและอาเจียนมากกว่า 3 วัน
4. ปวดภายใน
- อาการปวดมาก มาอย่างกะทันหันและคงที่
- อาการปวดนานกว่า 14 วัน
- มีอาการปวดที่จุดเดียว
- มีอาการปวดเป็นระยะ
5. โรคกรดไหลย้อน GERD (Gastro esophageal Reflux):
GERD มักจะหายไปเองเมื่อเด็กๆ หยุดรับประทานอาหารจำพวกช็อคโกแลต เปเปอ์มิ้นท์หรือผลิตภัณท์ที่มีไขมัน อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หากเด็กๆ มีอาการกรดไหลย้อน เช่น:
- น้ำหนักลด
- ปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ
- อาเจียนเป็นสีเหลืองหรือเขียวหลังการรับประทานอาหาร
- ปวดท้องหรือหน้าอก
- ไอเป็นระยะเวลานาน
- กลืนอาหารลำบาก
การย่อยอาหารผิดปกติ
อาเจียน ปวดท้อง ท้องผุกและท้องร่วงท้องเสียอาจเป็นผลจากสุขภาพเช่น :
− การแพ้อาหาร: ปัญหาทั่วไปอย่างแพ้แลคโตส (พบในนมวัว) กลูเตน (พบในธัญพืชต่างๆ)และฮิสทามีน (พบในหอยและโกโก้)
− โรคโครห์น: การอักเสบของระบบทางเดินอาหาร (IBD)
− โรคแพ้กลูเตน: มากกว่าการแพ้อาหาร โรคแพ้กลูเตนคือโรคระบบภูมิคุ้มกันทำลายตนเองในพันธุกรรมซึ่งมีผลทำลายเยื่อยบุลำไส้หลังการบริโภคกลูเตน หรือเรียกกันอีกอย่างว่าภาวะความไวต่อกลูเตน
− ปัญหาระบบลำไส้: เกิดการอุดตันในลำไส้ใหญ่หรือลำไส้เล็ก
− การอักเสบของระบบทางเดินอาหาร: เป็นภาวะในระบบทางเดินอาหาร มีความเกี่ยวข้องกับการขาดวิตามิน D จากการศึกษาพบว่าในผู้ป่วยโรคนี้ทุกๆ 10 คน จะมี 8 คนที่ขาดวิตามิน D
− อาการอุดตันในลำไส้หรือตับมีปัญหา
− ตับอ่อนอักเสบ: มีอาการอักเสบในตับอ่อน
− การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือบางครั้งเรียกว่า UTIs มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
− ลำไส้ใหญ่บวมเป็นแผล : มีอาการอักเสบที่ลำไส้และไส้ตรง
− ไวรัสตับอักเสบ: ติดเชื้อในตับ