เช็คสุขภาพ : ที่นี่ ... มีคำตอบให้ทุกคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน
หน้าแรก / บทความ / อะโวคาโดสำหรับทารก
โดย :
ทบทวนบทความโดย :
อะโวคาโดสำหรับทารก

อะโวคาโดดูเหมือนจะเป็นผลไม้อันดับแรกผลไม้ที่คุณแม่จะเลอกให้กับลูกน้อยของเขา หาคุณประโยชน์ของอะโวคาโดจากรายการดังนี้ เพื่อหาสาเหตุว่าทำไมคุณควรเริ่มทำเช่นเดียวกัน

1. การพัฒนาทางสมอง,สุขภาพ,หัวใจและคุณประโยชน์อื่น ๆ
อะโวคาโดเป็นอาหารที่มีแคลอรี่สูงซึ่งสูงถึงด้วย 160 แคลอรี่ ต่อ 100 กรัม 75 ถึง 80 เปอร์เซ็น ของแคลอรี่ มาจากไขมัน ทำให้อะโวคาโดเป็นหนึ่งในผลไม้ที่เต็มไปด้วยไขมันอย่างไรก็ตามไขมันส่วนใหญ่ในอะโวคาโดเป็นกรดโอลิอิกซึ่งเป็นชนิดของไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวซึ่งมีบทบาทในการสร้างการทำงานและการพัฒนาระบบสมองและสักยภาพ ในเด็กทารกช่วงสองปีแรกนั้นคือช่วงการเจริญเติบโตที่สำคัญของสติปัญญา อะโวคาโดจึงกลายเป็นหนึ่งในแหล่งอาหารที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยเพิ่มโภชนาการของเด็กๆ
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวในระดับที่สูงจะช่วยทำให้หัวใจแข็งแรงและช่วยเพิ่มการดูดซึมของวิตามินที่ละลายในไขมันเช่นวิตามินเอ,วิตามินอี,วิตามินดีและวิตามินเค
2. การเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
อะโวคาโดมีส่วนประกอบของวิตามินและแร่ธาตุทุกชนิดที่เป็นแหล่งอาหารที่ดีที่สุดสำหรับการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับรสชาติที่ดีของอะโวคาโดในความเป็นจริงการกินอะโวคาโดแค่ 1 ครั้งซึ่งคิดเป็นปริมาณเพียงครึ่งหนึ่งของผลสิ่งที่เราจะได้รับคือ:
− โฟเลต 60 มิลลิกรัม (15 เปอร์เซ็นต์ DV): โฟเลตมีความสำคัญต่อการทำงานของเซลล์และการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ อาหารที่มีโฟเลตจะช่วยลดความเสี่ยงที่ทารกในครรภ์จะได้รับความบกพร่องของหลอดประสาทได้วิตามินเค 14 มิลลิกรัม (19 เปอร์เซ็นต์ DV): วิตามินเคเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการแข็งตัวของเลือด,การก่อตัวของโปรตีนในตับและการสร้างกระดูกที่แข็งแรง หากทารกไม่ได้รับวิตามินเคมากพอในการรับประทานอาหารอาจทำให้มีความเสี่ยงที่จะมีภาวะ " ภาวะพร่องวิตามินเค" (VKDB) ซึ่งทำให้แผลไม่สามารถหายเองได้และเลือดออกไม่หยุดได้.
− วิตามินซี 6 มิลลิกรัม (12 เปอร์เซ็นต์ DV): วิตามินซีช่วยเสริมสร้างเหงือก,กระดูกและหลอดเลือดของทารก นอกจากนี้ยังช่วยให้เกิดการก่อตัวของเม็ดเลือดแดงและการดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยโพแทสเซียม 343 มิลลิกรัม (10 เปอร์เซ็นต์ DV): โพแทสเซียมสามารถควบคุมความสมดุลของน้ำในร่างกาย,รักษาความดันโลหิตและสามารถลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนและนิ่วในไต อะโวคาโดยังมีโพแทสเซียมมากกว่ากล้วยซึ่งเป็นอาหารที่อุดมด้วยโพแทสเซียมอีกด้วยอะโวคาโดยังเป็นแหล่งของวิตามินบี,วิตามินอีและกรดแพนโทเทนิก
3. การกำจัดสารพิษ
นอกจากจะให้สารอาหารที่จำเป็นหลายอย่างแล้วอะโวคาโดยังสามารถกำจัดสารพิษภายในร่างกายของเราได้อีกด้วยเนื่องจากอะโวคาโดประกอบไปด้วยใยและสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายน้ำได้มากกว่าอาหารส่วนใหญ่ด้วยซ้ำในขณะที่เส้นใยปริมาณมากช่วยเรื่องการทำงานของลำไส้เป็นปกติแล้วยังมี สารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านจุลชีพที่พบในอะโวคาโดที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถกำจัดอนุมูลอิสระและสารเคมีที่เป็นพิษออกจากร่างกายได้

23/02/2018
บทความที่เกี่ยวข้อง
CHECKSUKKAPHAP.COM
เลขที่ 598 ชั้น 6 ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
095-515-9229
ข้อกำหนดและเงื่อนไข ความเป็นส่วนตัว