ว่านน้ำใช้สำหรับ

ว่านน้ำเป็นพืชชนิดหนึ่ง ซึ่งราก (เหง้า) สามารถใช้ผลิตยารักษาโรคได้ อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัย เราควรจะรู้ว่าว่านน้ำใช้เพื่อรักษาอาการเหล่านี้ คือ

• แผลเปื่อย แผลพุพอง แผลอักเสบ
• แผลในกระเพาะอาหาร (กระเพาะอาหารอักเสบ)
• แก๊สในลำไส้ (อาการท้องอืด, ท้องเฟ้อ)
• ปวดท้อง ท้องเสีย
• เบื่ออาหาร
• เหงื่อออกมาก
• โรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์
• โรคหลอดเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน

บางคนเคี้ยวว่านน้ำเพื่อกำจัดกลิ่นบุหรี่ในช่องปาก  เป็นสารกระตุ้น เพิ่มความกระชุ่มการชวย และเป็นยาหลอนประสาท

บางคนใช้ว่านน้ำทาผิวหนังโดยตรงเพื่อรักษาอาการโรคผิวหนังบางชนิด ส่วนในอาหารนั้นว่านน้ำ ถูกใช้เป็นเครื่องเทศอย่างหนึ่ง

    ว่านน้ำทำงานอย่างไร

เนื่องจากยังไม่การศึกษาอย่างเพียงพอว่าอาหารเสริมสมุนไพรประเภทนี้ทำงานอย่างไร ดังนั้นหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ด้านสมุนไพรหรือแพทย์  อย่างไรก็ดีมีบางข้อมูลระบุว่าสารที่อยู่ในว่านน้ำนั้นทำให้ กล้ามเนื้อผ่อนคลายและ ลดความวิตกกังวล

    ข้อควรระวังและคำเตือน

    สิ่งที่ควรรู้ก่อนการใช้ว่านน้ำ

ควรปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพร ถ้า

• อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ทั้งนี้เพราะในขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรนั้นคุณควรจะใช้ยาภายใต้การแนะนำของแพทย์เท่านั้น
• อยู่ในระหว่างรักษาโรคอื่นๆ ทั้งนี้รวมถึงใช้ยาที่สามารถซื้อเองได้โดยไม่มีใบสั่งแพทย์
• เคยมีอาการแพ้การใช้ว่านน้ำ ยารักษาโรคต่างๆ หรือสมุนไพรชนิดอื่น
• มีอาการป่วยอื่นๆ อยู่ในภาวะซึมเศร้า หรือมีโรคประจำตัว
• มีอาการแพ้ต่างๆเช่นแพ้ อาหาร สีผสมอาหาร วัตถุกันเสีย หรือเนื้อสัตว์

ข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์สำหรับการใช้อาหารเสริมสมุนไพรนั้นจะมีความเข้มงวดน้อยกว่าสำหรับการใช้ยารักษาโรค การศึกษามากขึ้นจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อความปลอดภัยในการใช้  ซึ่งประโยชน์ในการใช้สมุนไพร จะต้องคลอบคุมถึงความเสี่ยงก่อนการใช้ด้วย ดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม

ว่านน้ำมีความปลอดภัยเพียงใด

สตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร

        เป็นไปได้ว่าว่านน้ำนั้นไม่ปลอดภัยสำหรับรับประทานในระหว่างการตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการในช่วงนี้

        การผ่าตัด

        ว่านน้ำนั้น สามารถส่งผลกระทบต่อระบบประสาทกลาง ดังนั้นว่านน้ำอาจเป็นต้นเหตุของการนอนหลับมากเกินไป ถ้าใช้รวมกับยารักษาโรคที่ใช้ในระหว่างการผ่าตัด อย่างไรก็ตามถ้าคุณกำลังใช้ว่านน้ำอยู่ เพื่อความปลอดภัยควรหยุดการใช้ว่านน้ำก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์

              อาการข้างเคียง

              อาการข้างเคียงอะไรบ้างที่อาจจะได้รับจากการใช้ว่านน้ำ

ดูเหมือนว่าว่านน้ำนั้นจะไม่ปลอดภัยเมื่อใช้รับประทาน เนื่องจากอาจเป็นต้นเหตุของไตวาย อาการสั่น และลมชักอย่างปัจจุบันทันด่วน

        ไม่ใช้ทุกคนจะประสบกับอาการข้างเคียงเหล่านี้ อาจมีอาการข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ได้ระบุไว้ด้านบน  ถ้าคุณมีความกังวลกับผลข้างเคียงต่างๆ กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์

        ผลกระทบ

        ผลกระทบที่อาจได้รับจากว่านน้ำ

สมุนไพรเสริมอาหารชนิดนี้อาจจะกระทบกับ โรคที่กำลังรักษาอยู่ หรือโรคประจำตัวดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนการใช้

        ปัญหาสุขภาพเหล่านี้อาจมีผลกับการใช้ว่านน้ำ เช่น

• โรคหัวใจ ว่านน้ำอาจทำให้ความดันในเลือด และอัตราการเต้นของหัวใจลดลง ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วว่านน้ำจำนวนมากอาจทำให้ ผู้ป่วยโรคหัวใจอาการแย่ลง
• ความดันในเลือดต่ำ ว่านน้ำจะไปลดความดันในเลือด ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วการใช้ว่านน้ำอาจทำให้แรงดันในเลือดลดต่ำลงมากเกินไปในบุคคลที่เป็นโรคความดันต่ำ

ผลิตภัณฑ์ยาต่อไปนี้อาจมีผลกับการใช้ว่านน้ำ เช่น

• ยารักษาโรคซึมเศร้า ( MAOIS ) ว่านน้ำนั้นประกอบด้วยสารบางอย่างที่มีผลต่อร่างกายซึ่งสารนี้อาจเพิ่มอาการข้างเคียงให้กับยาบางตัวที่ใช้รักษาโรคซึมเศร้า  ยาที่อยู่ ในกลุ่มยาประเภทนี้ได้แก่  ฟีเนลซีน ( phenelzine ) ชื่อการค้าคือ Nardil ทรานิลซัยโปรมีน (tranylcypromine) ชื่อการค้าคือ Parnate และอื่นๆ
• ยากล่อมประสาท ( CNS depressants ) ว่านนี้อาจเป็นต้นเหตุของการนอนหลับและอาการง่วงซึม ซึ่งยาที่เป็นต้นเหตุของการนอนหลับคือยากล่อมประสาท( Sedative ) การใช้ว่านน้ำร่วมกับยากล่อมประสาท อาจเป็นต้นเหตุของการนอนมากเกินไป ซึ่งยาที่อยู่ในกลุ่มนี้ได้แก่ โคลนาซีแพม( Clonazepam) ชื่อการค้า Klonopin ลอราซีแพม (lorazepam)  ชื่อการค้าคือ Ativan  ฟีโนบาร์บิทัล (Phenobarbital) ชื่อการค้าคือ Donnatal โซลพิเดม (zoipidem) ชื่อการค้าคือ Ambien และอื่นๆ
• ยาลดกรด ยาลดกรดต่างๆนั้นใช้เพื่อลดกรดในการเพราะอาหาร ว่านน้ำอาจเพิ่มกรดในกระเพราะอาหาร โดยลดประสิทธิภาพของยาลดกรดในกระเพราะทำให้กรดในการเพราะอาหารเพิ่มขึ้น ซึ่งยาที่อยู่ในกลุ่มยาลดกรดในกระเพราะอาหารนี้ได้แก่ กลุ่มแคลเซียม คาร์บอเนต (Calcium carbonate) ชื่อการค้าคือ Tums และอื่นๆ กลุ่ม ไดโฮดรอกซีอะลูมินัม โซเดียมคาร์บอเนต ( Dihydroxyaluminum sodium carbonate ) ชื่อการค้าคือ Rolaids และอื่นๆ แมกกอลเดรต (Magaldrate ) ชื่อการค้าคือ Riopan แมกนีเซียมซัลเฟต (Magmesium sulfate) ชื่อการค้าคือ Bilagog อลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ (aluminum hydroxide) ชื่อการค้าคือ Amphojel และอื่นๆ
• ยาลดกรดในกระเพราะอาหาร กลุ่ม H2-Blockers (ยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งกรด) ว่านน้ำอาจเพิ่มกรดในกระเพราะอาหารโดยลดประสิทธิภาพของยาบางตัวที่อยู่ในกลุ่ม H2-Blockers โดยการเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร ซึ่งยาในกลุ่มนี้ได้แก่ ไซเมทีดีน (Cimetidine)ชื่อการค้าคือ Tagamet  รานิทีดีน ( Ranitidine) ชื่อการค้าคือ Zantac  นิซาทิดีน ( Nizatidine) ชื่อทางการค้าคือ Axid และ แฟโมทิดีน (Famotidine) ชื่อการค้าคือ Pepcid
• ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร กลุ่ม โปรตรอนปั๊มอินฮิบิเตอร์ (Proton pumpinhibitors) ว่านน้ำอาจเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร โดยอาจลดประสิทธิภาพของยาบางตัวในกลุ่ม Proton pump inhibitors โดยการเพิ่มกรดในกระเพาะอาหารซื่งยาในกลุ่มนี้ได้แก่ โอเมพราโซล (Omeprazole)ชื่อการค้าคือ Prilosec แลนโซพราโซล (Lansoprazole)ชื่อการค้าคือ Prevacid ราบีพราโซล(Rabeprazole)ชื่อการค้าคือ Aciphex  แพนโทรพาโซล( Pantoprazole) ชื่อการค้าคือ Photonix และ อีโซเมพาโซล (Esomeprazole)ชื่อทางการค้าคือ Nexium

ขนาดที่ใช้

ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้เสมอ

ประมาณว่านน้ำที่ใช้ต่อครั้ง

ขนาดที่ใช้สำหรับสมุนไพรเสริมอาหารนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพ  และเหตุผลอื่นๆ ซึ่งสมุนไพรเสริมอาหารนั้นไม่ปลอดภัยเสมอไปโปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์เพื่อขนาดที่เหมาะสมสำหรับตัวคุณ

รูปแบบของว่านน้ำ

อาหารเสริมสมุนไพรชนิดนี้อาจอยู่ในรูปแบบต่อไปนี้

• ของเหลวสกัด ( เป็นยาน้ำที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์ 100 เปอร์เซ็นต์)
• ผง
• ของเหลวสกัดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อยู่มาก
• หมากฝรั่ง