เช็คสุขภาพ : ที่นี่ ... มีคำตอบให้ทุกคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน
หน้าแรก / บทความ / เอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน (N-Acetyl Cysteine/ NAC)
โดย :
ทบทวนบทความโดย :
เอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน (N-Acetyl Cysteine/ NAC)

การใช้

เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินใช้ทำอะไร?

เอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน มาจากกรดอะมิโนแอล-ซีสเตอีน กรดอะมิโนเป็นหน่วยก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของโปรตีน เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินสามารถใช้เป็นยาได้หลายชนิด

เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินใช้สำหรับ:

  • เป็นยาต้านพิษในอะเซตามิโนเฟนและคาร์บอนมอนอกไซด์
  • ปวดหน้าอก (โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากขาดเลือด)
  • การอุดตันของท่อทางเดินน้ำดีนอกตับในทารก
  • โรคเอแอลเอส โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส (โรคลูเกริก)
  • โรคอัลไซเมอร์
  • ปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อยา (Dilantin)
  • เยื่อบุตาและกระจกตาอักเสบ
  • ลดระดับลิโพโปรตีน, ระดับโฮโมซีสทีน และความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยโรคไตอย่างร้ายแรง

บางคนใช้เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินในการรักษาโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD), โรคไข้เหลือง, ผนังถุงลมหนาขึ้น, มะเร็งของ หู คอ จมูก และโรคมะเร็งปอด นอกจากนี้ยังใช้สำหรับการรักษาโรคลมชักบางรูปแบบ, การติดเชื้อที่หู, ภาวะแทรกซ้อนของไตหลังจากการฟอกไต, อาการอ่อนเพลียเรื้อรัง (CFS); โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ที่มีชื่อว่า อาการโจเกรน, ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการบาดเจ็บทางกีฬา, การรักษาด้วยรังสี, การเพิ่มภูมิคุ้มกันของไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 (ไข้หวัดหมู) และสำหรับการล้างพิษโลหะหนัก เช่น ปรอท, ตะกั่ว และแคดเมี่ยม

เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินใช้เพื่อป้องกันความเสียหายของตับที่มีแอลกอฮอล์, สำหรับการป้องกันมลพิษทางสิ่งแวดล้อม ได้แก่ คาร์บอนมอนอกไซด์, คลอโรฟอร์ม, ยูรีเทนและสารเคมีกำจัดวัชพืชบางชนิด, เพื่อลดความเป็นพิษของ “ไอฟอสฟามายด์” และ “ดอกโซรูบิซิน”, ใช้เป็นยาในการรักษาโรคมะเร็ง, เป็นยาแก้อาการเมาค้าง, เพื่อป้องกันความเสียหายของไตเนื่องจากยาย้อมสีเอ็กซ์เรย์บางชนิด และไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องของมนุษย์ (HIV)

ผู้ให้บริการทางการแพทย์ให้เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินโดยฉีดเข้าเส้นเลือดดำสำหรับการรับประทานยาอะเซตามิโนเฟนเกินขนาด, ความเป็นพิษของยาอะคริโลไนไตรล์, โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส  (ALS, โรคลูเกริก), ไตวายในโรคตับ (hepatorenal syndrome),

เจ็บหน้าอกล,  หัวใจวายและเพื่อช่วยป้องกันความล้มเหลวของหลายอวัยวะที่อาจนำไปสู่ความตาย

เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินถูกนำมาสูดดมหรือส่งผ่านท่อในลำคอเพื่อรักษาโรคปอดบางชนิด เช่น โรคปอดบวม, หลอดลมอักเสบ, ถุงลมโป่งพองเรื้อรัง, โรคปอดเรื้อรังและอื่นๆ

 

เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินทำงานอย่างไร?

ยังมีการศึกษาเกี่ยวกับการทำงานของเอ็น-อะเซทิลซิสเทอินไม่มากพอ ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่าเอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน ช่วยรักษาพิษจากอะเซตามิโนเฟน โดยการจับพิษของอะเซตามิโนเฟนที่เกิดขึ้นในตับ นอกจากนี้ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้น จึงอาจมีบทบาทในการป้องกันโรคมะเร็ง

 

ข้อควรระวังและคำเตือน

ควรรู้อะไรก่อนที่จะใช้เอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน?

ควรปรึกษากับแพทย์, เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรถ้ามีอาการหรือลักษณะดังต่อไปนี้:

  • กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
  • อยู่ในระหว่างการใช้ยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา
  • มีอาการแพ้สารใดๆที่มีสารประกอบของเอ็น-อะเซทิลซิสเทอินผสมยู่ หรือยาและสมุนไพรอื่นๆ
  • มีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่นๆ
  • มีอาการแพ้ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์

ข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ประโยชน์ของการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารจะต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

 

เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินปลอดภัยแค่ไหน?

เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินมีแนวโน้มที่จะปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่เมื่อใช้ยาตามใบสั่งของแพทย์

 

ข้อควรระวังและคำเตือนพิเศษ

หญิงมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร: เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินอาจปลอดภัยเมื่อใช้รับประทาน, ส่งผ่านหลอดลมหรือสูดดม เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินอาจจะผ่านทางรก แต่ยังไม่มีหลักฐานใดๆ ที่เชื่อมโยงอันตรายแก่ทารกในครรภ์หรือมารดา อย่างไรก็ตามควรใช้เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินในหญิงตั้งครรภ์เฉพาะเมื่อจำเป็น เช่น กรณีที่มีภาวะพิษจากการได้รับอะเซตามิโนเฟนเกินขนาด

ยังมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือไม่เพียงพอทางด้านความปลอดภัยในการใช้เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินช่วงให้นมบุตร จึงควรอยู่ในความควบคุมที่ปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการใช้

อาการภูมิแพ้: ห้ามใช้ เอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน หากท่านแพ้ยาอะเซทิลซิส (acetyl cysteine)

หอบหืด: มีความกังวลว่า เอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน อาจทำให้หลอดลมหดตัวสำหรับผู้ที่เป็นโรคหอบหืด หากสูดดม, ส่งผ่านทางท่อหรือหลอดลม หากท่านเป็นโรคหอบหืด และจะใช้เอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน ควรให้ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพตรวจสอบเสียก่อน

ภาวะเลือดออกผิดปกติ: เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินอาจทำให้เลือดแข็งตัวได้ มีความกังวลว่า เอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการช้ำและเลือดออกในคนที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ

การผ่าตัด: เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินอาจทำให้เลือดแข็งตัวได้ นี้อาจเพิ่มความเสี่ยงของการมีเลือดออกในระหว่างและหลังการผ่าตัด หยุดใช้เอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด

 

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงจากเอ็น-อะเซทิลซิสเทอินมีอะไรบ้าง?

เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน, ท้องร่วงหรือท้องผูก อาจทำให้เกิดผื่น, ปวดหัว, ง่วงนอน, ความดันโลหิตต่ำและปัญหาเกี่ยวกับตับ

เมื่อสูดดมเข้าไปในปอด อาจทำให้เกิดอาการบวมในปาก, น้ำมูกไหล, ง่วงนอน, คลุ้มคลั่งและแน่นหน้าอกได้

เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ซึ่งอาจทำให้ยากที่จะใช้งาน

ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้นไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน อย่างไรก็ตาม อาจเกิดผลข้างเคียงอื่นนอกเหนือจากที่ระบุไว้ โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากกังวลเรื่องผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น

 

ปฏิกิริยาระหว่างยา

ปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ยาอื่นร่วมกับ เอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน

เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินอาจมีปฏิกิริยากับยาที่ใช้ควบคู่กันในปัจจุบันหรือความเจ็บป่วยของท่าน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้

ผลิตภัณฑ์ที่อาจมีปฏิกิริยากับเอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน ได้แก่

- ไนโตรกลีเซอริน (Nitroglycerin)

ไนโตรกลีเซอรินสามารถขยายหลอดเลือดและเพิ่มการไหลเวียนโลหิต การใช้เอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน ดูเหมือนจะเพิ่มผลกระทบของไนโตรกลีเซอรีน ซึ่งอาจทำให้เกิดโอกาสที่จะเพิ่มผลข้างเคียงรวมทั้งอาการปวดหัว, วิงเวียนศีรษะและหน้ามืด

- ถ่านกัมมันต์ (Activated charcoal)

ในบางครั้งถ่านกัมมันต์ถูกใช้เพื่อป้องกันการเกิดพิษในคนที่ใช้ยาอะเซตามิโนเฟน และยาอื่นๆ เกินขนาด ถ่านกัมมันต์สามารถผูกยาเหล่านี้ไว้ในกระเพาะอาหารและป้องกันไม่ให้ร่างกายดูดซึมได้ การใช้เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินพร้อมกันกับถ่านกัมมันต์อาจทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันพิษลดลง

 

ขนาดยา

ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้เสมอ

ขนาดปกติของการใช้เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินอยู่ที่เท่าไร?

ขนาดต่อไปนี้ได้รับการศึกษาในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์:

การบริหารทางทางเดินอาหาร:

- สำหรับภาวะได้รับอะเซตามิโนเฟน (ไทลีนอล) เกินขนาด: ในช่วงเริ่มต้นการรักษา เริ่มด้วยขนาด 140 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ในสาร 5% สาร 10% และ 20% ในท้องตลาดสามารถเจือจางด้วยน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และให้ผ่านหลอด เพื่อลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ขอเอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน  ตามด้วย 70 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทุก 4 ชั่วโมงอีก 17 ครั้ง ในสาร 5% ให้ยาทุกๆ 4 ชั่วโมง รวมขนาดยาทั้งหมดเป็น 1330 มิลลิกรัม / กิโลกรัม และมากกว่า72 ชั่วโมง

- สำหรับอาการเจ็บหน้าอกที่ไม่ได้รับการผ่อนคลาย (โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ): เอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน 600 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันพร้อมกับแพทช์ ไนโตรกลีเซอริน

- สำหรับป้องกันไม่ให้อาการหลอดลมอักเสบเรื้อรังร้ายแรงลงอย่างฉับพลัน: ใช้ 200 มิลลิกรัม วันละครั้ง, 200 มิลลิกรัม สามครั้งต่อวัน, 300 มิลลิกรัม ปล่อยอย่างช้าๆวันละสองครั้งและ 600 มิลลิกรัม ควบคุมการปล่อยอย่างช้าๆ วันละสองครั้ง

- สำหรับการรักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD): ใช้เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินวันละ 600 มิลลิกรัม นอกเหนือจากการดูแลตามมาตรฐานแล้ว มีการนำมาใช้เป็นเวลามากกว่า 6 เดือน

- สำหรับการรักษาสภาพของปอดที่เรียกว่า ผนังถุงลมหนาขึ้นที่ทำให้เกิดการหายใจลำบาก: 600 มิลลิกรัมของเอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน 3 ครั้งต่อวัน

- สำหรับป้องกันความเสียหายต่อกระเพาะปัสสาวะเนื่องจากการรักษาด้วยยารักษามะเร็งที่เรียกว่า ไอฟอสฟามายด์ (ifosfamide): 1 ถึง 2 กรัมของเอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน ทุกๆ 6 ชั่วโมง

- สำหรับการลดระดับโฮโมซีสทีนในเลือด: 1.2 กรัมของ เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินต่อวัน

- สำหรับอาการชักสะดุ้ง: 4-6 กรัมต่อวัน

- สำหรับลดอาการไข้หวัดใหญ่: 600 มิลลิกรัม วันละสองครั้ง

- สำหรับลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายและการอุดตันของเส้นโลหิตที่ไปเลี้ยงสมองในผู้ป่วยโรคไตระยะสุดท้าย: 600 มิลลิกรัม วันละสองครั้ง

- สำหรับบาดแผลที่ผิวหนังที่ผ่านการรักษาด้วยการฟอกไต: 200 มิลลิกรัม วันละสี่ครั้งหรือ 600 มิลลิกรัม วันละสองครั้ง

- สำหรับป้องกันความเสียหายของไตที่เกี่ยวข้องกับการใช้ไอโอโพรมายด์ (iopromide) เพื่อตรวจวินิจฉัย: 400-600 มิลลิกรัมของเอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน วันละสองครั้ง ก่อนและวันที่ให้ไอฟอสฟามายด์ ด้วยน้ำเกลือ (0.45%) 1 มิลลิลิตร ต่อน้ำหนักตัว ต่อชั่วโมงเป็นเวลา 12 ชั่วโมงก่อนและ 12 ชั่วโมงหลังการให้ไอโอโพรมายด์

- สำหรับโรคดึงผมตนเอง (trichotillomania) : ได้มีการใช้เอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน 1200 มิลลิกรัม ถึง 2400 มิลลิกรัม ต่อวัน

 

การบริหารทางหลอดเลือดดำ:

- ผู้ให้บริการทางการแพทย์ให้เอ็น-อะเซทิลซิสเทอิน ทางหลอดเลือดดำ สำหรับภาวะพิษจากอะเซตามิโนเฟน

 

เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินมีจำหน่ายในรูปแบบใดบ้าง?

เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินอาจมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้

  • เอ็น-อะเซทิลซิสเทอินชนิดแคปซูล

 

N-acetyl cysteine http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-1018-n-acetyl%20cysteine.aspx?activeingredientid=1018 Accessed July 18, 2017

N-Acetylcysteine https://examine.com/supplements/n-acetylcysteine/ Accessed July 18, 2017

24/02/2018
บทความที่เกี่ยวข้อง
CHECKSUKKAPHAP.COM
เลขที่ 598 ชั้น 6 ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
095-515-9229
ข้อกำหนดและเงื่อนไข ความเป็นส่วนตัว