การใช้

RNA และ DNA ใช้เพื่ออะไรบ้าง?

คนทั่วไปใช้ RNA/DNA รวมกันเพื่อ:

• พัฒนาหน่วยความจำและสมาธิเฉียบแหลม
• รักษาและหรือป้องโรคอัลไซเมอร์
• รักษาโรคซึมเศร้า
• เพิ่มพลังงาน
• กระชับผิวหนัง
• เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
• ต่อต้านผลกระทบของการเสื่อมสภาพ

 โรงพยาบาล RNA ใช้เป็นสูตรอาหารที่ประกอบด้วยกรด โอเมก้า 3 และ อาร์จีนีน. การรวมกันนี้ใช้เพื่อลกระยะเวลาที่จำเป็นสำหรับรักษาหลังการผ่าตัด, เร่งการตอบสนองระบบภูมิคุ้มกัน และเพิ่มผลลัพท์ของผู้ป่วยแผลไฟไหม้และผู้ป่วยวิกฤติ.

RNA หนึ่งหลอดใช้เพื่อรักษาโรคผิวหนังได้ เช่น โรคแพ้ผื่นผิวหนังอักเสบ, โรคสะเก็ดเงิน รวมทั้ง โรคลมพิษและโรคงูสวัด.

RNA และ DNA ทำงานอย่างไร?

เนื่องจากไม่มีการศึกษาเพียงพอเกี่ยวกับ RNA และ DNA ทำงานอย่างไร. ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและแพทย์เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ตามที่รู้กันดีว่า RNA (ribonucleic acid) และ DNA (deoxyribonucleic acid) คือสารเคมีที่เรียกกันว่า nucleotides นิวคลีโอไทด์ ซึ่งถูกสร้างได้โดยจากร่างกาย ได้ปรากฏเป็นส่วนที่สำคัญภายใต้ภาวะการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น  การเติบโตของลำไส้, การผ่าตัดหรือความเสียหายของตับ, และระหว่างกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย.

ข้อควรระวังและคำเตือน

RNA และ DNA ควรรู้ก่อนที่จะใช้อย่างไร?

ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกร กรณีที่:

• ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น.
• อยู่ในระหว่างใช้ยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา.
• แพ้ RNA และ DNA หรือยาอื่น หรืออาหารเสริมอื่นๆ
• มีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือพยาธิอื่นๆ.
• มีอาการแพ้ต่างๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์

ข้อบังคับสำหรับอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้มากขึ้นเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ทั้งนี้ ก่อนใช้ คุณประโยชน์ของการรับประทานอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนี้ต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

RNA และ DNA มีความปลอดภัยอย่างไร?

RNA ปรากฏว่ามีความปลอดภัยสำหรับคนทั่วไป เมื่อรับประทานพร้อมกับ กรดโอเมก้า 3 และ แอล-อาร์จินีน หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง.

สูตรสำหรับเด็กทารกที่มี RNA หรือ DNA อยู่มีความปลอดภัยสำหรับเด็ก.

แต่ยังคงไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะรู้ได้ว่าการรวมของ RNA/DNA มีความปลอดภัยที่จะรับประทานได้หรือไม่.

ข้อควรระวังและคำเตือน

ช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร: อาจจะไม่มีความปลอดภัยที่จะรับประทานอาหารเสริม RNA หรือ DNA ในช่วงตั้งครรภ์ แต่มีพิสูจน์หลักฐานว่า DNA อาจข้ามรกและอาจทำให้เกิดความพิการของทารกแรกเกิด.

เนื่องจากยังมีข้อมูลไม่เพียงพอด้านความปลอดภัยของการใช้ RNA และ DNA ช่วงให้นมบุตร โปรดอยู่ในความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการใช้.

ผลข้างเคียง

RNA และ DNA มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?

การฉีด RNA และ DNA สามารถทำให้เกิดอาการคัน, รอยแดง และอาการบวมตรงบริเวณฉีดยา.

ไม่ทุกคนที่จะประสบผลข้างเคียงเหล่านี้ แต่อาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ได้ระบุข้างต้น  ถ้าท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลข้างเคียง  โปรดปรึกษาแพทย์.

ปฏิกิริยาระหว่างยา

ปฏิกิริยาระหว่างยาของ RNA และ DNA มีอะไรบ้าง?

RNA และ DNA อาจมีปฏิกิริยากับยาที่รับประทานอยู่หรืออาการที่เกี่ยวกับการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะใช้ยา.

ขนาดยา

ข้อมูลที่ได้รับนี้ไม่ได้เป็นตัวแทนคำแนะนำทางการแพทย์. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ของทางสม่ำเสมอการใช้เพื่อการรักษา.

ขนาดยาปกติของอินนูลิน ควรเท่าไหร่?

ขนาดยาดังต่อไปนี้ได้ศึกษาในผลวิจัยทางการแพทย์ว่า:

การให้อาหารทางสายให้อาหาร:

การรักษาแผลผ่าตัดให้ดีขึ้น: รับประทาน RNA 30 มิลลิกรัม กิโลกรัมต่อวัน รวมกับ อาร์จินีนและกรมโอเมก้า 3.

ปริมาณของ RNA และ DNA อาจใช้แตกต่างกับผู้ป่วยทุกราย. ปริมาณยาขึ้นอยู่กับ อายุ, สุขภาพ, และเงื่อนไขอื่นๆ อาหารเสริมไม่ปลอดภัยเสมอไป โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อทราบปริมาณยาที่เหมาะสม.

RNA และ DNA มาในรูปแบบอะไรบ้าง?

RNA และ DNA อาจวางขายตามรูปแบบดังต่อไปนี้:

• ยาเม็ด RNA และ DNA ขนาด 100 มิลิกรัม

• Nucleotide complex liposomal (DNA/RNA) ปริมาณ  250 มิลลิกรัม
• Cellfood DNA-RNA cell regeneration formula

Hello Health Group ไม่ได้เป็นผู้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือ การรักษาแต่อย่างใด.

เรียนรู้เกี่ยวกับ RNA และ DNA. RNA และ DNA มีผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง? คำเตือนและอาหารเสริมนี้ใช้อย่างไร? สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับปริมาณยามีอะไรบ้าง?

แหล่งที่มา

RNA and DNA http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-804-rna%20and%20dna.aspx?activeingredientid=804&activeingredientname=rna%20and%20dna Accessed July 21, 2017