เช็คสุขภาพ : ที่นี่ ... มีคำตอบให้ทุกคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน
หน้าแรก / บทความ / โสมไซบีเรีย (Siberian-Ginseng)
โดย :
ทบทวนบทความโดย :
โสมไซบีเรีย (Siberian-Ginseng)

การใช้

โสมไซบีเรียใช้ทำอะไร?

โสมไซบีเรีย หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อิลิวเธโร (eleuthero) มีการใช้มานานหลายศตวรรษในประเทศแถบตะวันออก รวมทั้งจีนและรัสเซีย เพื่อรักษาโรคหรืออาการต่อไปนี้:

  • ความดันโลหิตสูง
  • ความดันโลหิตต่ำ
  • โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis)
  • ไข้รูมาติก
  • โรคไต
  • โรคอัลไซเมอร์
  • สมาธิสั้น (ADHD)
  • อาการอ่อนเพลียเรื้อรัง
  • โรคเบาหวาน
  • ไฟโบรมัยอัลเจีย (fibromyalgia)
  • โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
  • ไข้หวัดใหญ่
  • โรคหวัด
  • โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
  • วัณโรค
  • ปัญหาการนอนหลับ (นอนไม่หลับ)
  • บรรเทาผลข้างเคียงของเคมีบำบัดมะเร็ง
  • การติดเชื้อเริมชนิดที่ 2

รวมไปถึงใช้เพื่อปรับปรุงสมรรถภาพในการเล่นกีฬา, เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยลดอาการเบื่ออาหาร

โสมไซบีเรียอาจมีคุณประโยชน์ในด้านอื่นๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแพทย์หรือเภสัชกรของท่าน

 

โสมไซบีเรียทำงานอย่างไร?

ยังมีการศึกษาค้นคว้าไม่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของโสมไซบีเรีย กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาบางอย่างที่แสดงให้เห็นว่า

โสมไซบีเรียต่อไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่

  • การศึกษาแบบ double-blind พบว่าโสมไซบีเรียและฟ้าทะลายโจร ช่วยลดความรุนแรงและความยาวนานของโรคหวัดเมื่อเริ่มมีอาการ 72 ชั่วโมง นักวิจัยยังไม่ทราบว่าเป็นเพราะโสมไซบีเรียหรือว่าเพราะฟ้าทลายโจร หรืออาจเป็นทั้งสองอย่าง
  • มีการศึกษาหนึ่ง มีการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์นี้กับอะแมนตาดีน; ยาที่ใช้รักษาโรคไข้หวัดบางประเภท คนที่เป็นไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับยานี้ ฟื้นตัวเร็วกว่าผู้ที่รับประทานอะแมนตาดีน
  • การศึกษาอีกอย่างหนึ่ง พบว่า กลุ่มคนที่มีสุขภาพดีที่ใช้โสมไซบีเรียนาน 4 สัปดาห์มี T-cells มากขึ้น ซึ่งบ่งบอกว่าระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายนั้นแข็งแรงขึ้น

โสมไซบีเรียต่อการติดเชื้อไวรัสเริม

  • การศึกษาแบบ double blind: คน 93 คนที่ติดเชื้อเริมชนิดที่ 2 ซึ่งสามารถทำให้เกิดเริมที่อวัยวะเพศ พบว่าการใช้โสมไซบีเรียช่วยลดจำนวนการระบาดของโรค

โสมไซบีเรียต่อสมรรถภาพทางจิต

  • โสมไซบีเรียช่วยเพิ่มความจำของพวกเขาเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก

โสมไซบีเรียต่อสมรรถภาพทางกาย

  • โสมไซบีเรียมักถูกกล่าวว่า ใช้เพื่อปรับปรุงสมรรถภาพในการเล่นกีฬาและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

โสมไซบีเรียต่อคุณภาพชีวิต

โสมไซบีเรียทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นหลังจากการรักษาด้วยการบำบัด 4 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก แต่หลังจาก 8 สัปดาห์นั้น ผลประโยชน์เริ่มลดลง

 

ข้อควรระวังและคำเตือน

ควรรู้อะไรก่อนที่จะใช้โสมไซบีเรีย?

ควรปรึกษากับแพทย์, เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรถ้ามีอาการหรือลักษณะดังต่อไปนี้:

  • กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
  • อยู่ในระหว่างการใช้ยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา
  • มีอาการแพ้สารใดๆที่มีสารประกอบของโสมไซบีเรียผสมยู่ หรือยาและสมุนไพรอื่นๆ
  • มีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่นๆ
  • มีอาการแพ้ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์

ข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ประโยชน์ของการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนี้จะต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

 

โสมไซบีเรียปลอดภัยแค่ไหน?

เด็ก:

ห้ามใช้โสมไซบีเรียกับเด็ก

หญิงมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร:

ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าการบริโภคโสมไซบีเรียขณะตั้งครรภ์มีความปลอดภัยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ควรอยู่ในด้านความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการใช้

 

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงจากโสมไซบีเรีย มีอะไรบ้าง?

ผลข้างเคียงเหล่านี้ ได้แก่

  • ความสับสน
  • อาการง่วงนอน
  • อาการปวดหัว
  • ความดันโลหิตสูง
  • โรคนอนไม่หลับ
  • หัวใจเต้นผิดปกติ
  • เลือดกำเดาไหล
  • อาเจียน

ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้นไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน อย่างไรก็ตาม อาจเกิดผลข้างเคียงอื่นนอกเหนือจากที่ระบุไว้ โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากกังวลเรื่องผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น

 

ปฏิกิริยาระหว่างยา

ปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ยาอื่นร่วมกับโสมไซบีเรีย

**โสมไซบีเรียอาจมีปฏิกิริยากับยาหรือภาวะทางการแพทย์ในปัจจุบันของท่าน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้

ภาวะทางการแพทย์หรือผลิตภัณฑ์ยาเหล่านี้ ได้แก่

  • ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (anticoagulants):

โสมไซบีเรียอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีเลือดออกในปริมาณมากได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน (aspirin), วาร์ฟาริน (warfarin) หรืออีกชื่อคือ คูมาดิน (coumadin), โคลพิโดเกรล (clopidogrel) หรืออีกชื่อคือ พลาวิกซ์ (Plavix)

 

  • คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) เช่น เพรดนิโซน (prednisone):

โสมไซบีเรียอาจมีปฏิกิริยากับสเตียรอยด์

 

  • ไดจอกซิน (Digoxin):

โสมไซบีเรียอาจเพิ่มระดับไดจอกซินในเลือด ยานี้ใช้ในการรักษาโรคหัวใจ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงได้

 

  • ยารักษาโรคเบาหวาน:

โสมไซบีเรียอาจลดระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มความเสี่ยงต่อน้ำตาลในเลือดต่ำ

 

  • ลิเธียม (Lithium):

โสมไซบีเรียอาจทำให้ร่างกายกำจัดลิเธียมยากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เป็นอันตรายมากขึ้น

 

  • ยากดภูมิคุ้มกัน:

โสมไซบีเรียอาจเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและอาจมีปฏิกิริยากับยาที่ใช้ในการรักษาโรค ภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (autoimmune) หรือยาที่รับประทานหลังจากการปลูกถ่ายอวัยวะ

 

  • ยาระงับประสาท:

โสมไซบีเรียอาจทำให้ประสิทธิผลของยาระงับประสาทรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะบาร์บิทูเรต (Barbiturates) บาร์บิทูเรตคือกลุ่มยา ได้แก่ เพนโทบาร์บิทอล (pentobarbital) ซึ่งใช้ในการรักษาอาการนอนไม่หลับหรืออาการชัก

 

  • ยาอื่นๆ:

โสมไซบีเรียอาจมีปฏิกิริยากับยาที่ถูกแปรสภาพโดยตับ หากท่านใช้ยาเหล่านี้ ให้ปรึกษาแพทย์ของก่อนที่จะใช้โสมไซบีเรีย

 

ความผิดปกติของเลือด:

โสมไซบีเรียมีสารเคมีที่อาจชะลอการแข็งตัวของเลือด ในทางทฤษฎีโสมไซบีเรียอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือดและช้ำในคนที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ

โรคหัวใจ:

โสมไซบีเรียอาจทำให้หัวใจเต้นรัว หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอและความดันโลหิตสูง คนที่มีความผิดปกติของหัวใจ (เช่น โรคหัวใจรูห์มาติค, หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน(หัวใจวาย)) ควรใช้โสมไซบีเรียภายใต้การดูแลของผู้ให้บริการทางสุขภาพเท่านั้น

 

โรคเบาหวาน:

โสมไซบีเรียอาจเพิ่มหรือลดระดับน้ำตาลในเลือด ในทางทฤษฎีโสมไซบีเรียอาจส่งผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดของท่านอย่างระมัดระวังหากท่านใช้โสมไซบีเรียและมีโรคเบาหวาน

 

สภาวะที่สำคัญของฮอร์โมนเช่นมะเร็งเต้านมมะเร็งมดลูกมะเร็งรังไข่เยื่อบุโพรงมดลูกหรือมดลูกในมดลูก:

โสมไซบีเรียอาจทำหน้าที่เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน หากท่านมีภาวะทางการแพทย์     การเปิดรับกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ห้ามใช้โสมไซบีเรีย

 

ความดันโลหิตสูง:

โสมไซบีเรียไม่ควรใช้โดยผู้ที่มีความดันโลหิตมากกว่า 180/90

 

  • ภาวะทางจิต เช่น ความบ้าคลั่งหรือโรคจิตเภท:

โสมไซบีเรียอาจทำให้ภาวะเหล่านี้แย่ลง

 

ขนาดยา

ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้เสมอ

ขนาดปกติของการใช้โสมไซบีเรียอยู่ที่เท่าไร?

  • สำหรับการติดเชื้อเริมชนิดที่ 2:

สารสกัดจากโสมไซบีเรีย การบรรจุที่ได้มาตรฐานที่มีสารอีเทอโรโซไซด์ อี (eleutheroside E)  0.3% ในขนาด 400 มิลลิกรัม ต่อวัน

  • สำหรับโรคไข้หวัด:

โสมไซบีเรียพร้อมกับสารสกัดจากฟ้าทะลายโจร 400 มิลลิกรัม การบรรจุที่ได้มาตรฐานที่มี แอนโดรกราโฟไลด์ (andrographolide/Kan Jang,/Swedish Herbal Institute) 4-5.6 มิลลิกรัม

3 ครั้งต่อวัน

ขนาดการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารอาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ทั้งนี้ ขนาดการใช้ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพและปัจจัยอื่นๆ  ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารไม่ปลอดภัยเสมอไป โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์เพื่อทราบขนาดที่เหมาะสม

 

โสมไซบีเรียมีจำหน่ายในรูปแบบใดบ้าง?

โสมไซบีเรียอาจมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้

  • สารสกัดจากของเหลว, สารสกัดจากของแข็ง
  • ผง,แคปซูล และยาเม็ด
  • รากแห้งหรือรากตัดเพื่อนำมาทำเป็นชา

 

Siberian-Ginseng. http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-985-ginseng,%20siberian.aspx?activeingredientid=985&activeingredientname=ginseng,%20siberian. Accessed December 6, 2016

Siberian-Ginseng. http://umm.edu/health/medical/altmed/herb/siberian-ginseng. Accessed December 6, 2016

24/02/2018
บทความที่เกี่ยวข้อง
CHECKSUKKAPHAP.COM
เลขที่ 598 ชั้น 6 ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
095-515-9229
ข้อกำหนดและเงื่อนไข ความเป็นส่วนตัว