การใช้
เซนต์จอห์น เวิร์ตใช้เพื่อรักษาอะไร
เซนต์จอห์น เวิร์ตคือพืชทั่วไปที่คนส่วนใหญ่ใช้รักษาโรคซึมเศร้า และภาวะสภาพที่บางครั้งไปได้ดีกับโรคซึมเศร้า เช่น อาการวิตกกังวล.ความเหนื่อยหน่าย,การหมดความรู้สึกอยากอาหาร,และปัญหาการนอนหลับ
และใช้ในด้านอื่นคือ:
- ใจสั่น
- หงุดหงิด
- วัยหมดประจำเดือน
- อาการทางร่างกาย
- กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน
- โรคสมาธิสั้น
- โรคย้ำคิดย้ำทำ
- โรคกลัวการเข้าสังคม
- โรคซึมเศร้าที่เกิดจากผลกระทบของฤดูกาล
- เลิกบุหรี่
- ไฟโบรมัยอัลเจีย กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อ,เอ็น,และเนื้อเยื่ออ่อน
- กลุ่มอาการความล้าเรื้อรัง
- กลุ่มอาการแสบร้อนในช่องปาก
- ไมเกรนและอาการปวดหัวชนิดอื่นๆ
- ปวดกล้ามเนื้อ
- อาการปวดเส้นประสาทและกลุ่มอาการเส้นประสาททำความเสียหายไปทั่วร่างกาย
- อาการปวดจากการกดทับเส้นประสาทแบบไซอาติค ซึ่งเป็นเส้นประสาทเลี้ยงความรู้สึกขา
- โรคลำไส้แปรปรวน
- มะเร็ง(รวมถึงมะเร็งสมอง)
- เอชไอวี(เอดส์)
- โรคตับอักเสบซี
- โรคเริม
- ขั้นตอนการปลดล็อคหลอดเลือดแดงอุดตัน
- ลดน้ำหนัก
น้ำมันที่ได้จากเซนต์จอห์น เวิร์ตใช้สำหรับช่วยย่อยอาหาร ในบางคนทาน้ำมันนี้ลงบนผิวหนังของพวกเขาเพื่อรักษารอยช้ำและรอยขีดข่วน,การปวดอักเสบของกล้ามเนื้อ,ผิวหนังตกสะเก็ดและคัน(โรคสะเก็ดเงิน),บาดแผลไฟไหม้,บาดแผลสด,ถอนฟัน,แมลงสัตว์กัดต่อย,ริดสีดวงทวาร,ปวดเส้นประสาท,และเพื่อรักษาโรคที่มีอาการผิวหนังจากเม็ดสีผิดปกติ
เซนต์จอห์น เวิร์ตอาจกำหนดเพื่อใช้ในด้านอื่นๆโปรดสอบถามแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การออกฤทธิ์
ขณะนี้ยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสมุนไพรชนิดนี้มากพอ โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรของคุณหรือแพทย์เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามมีบางการศึกษาวิจัยที่ออกมาชี้แจงว่า:
โรคซึมเศร้า
มีหลักฐานที่ดีที่ว่าเซนต์จอห์น เวิร์ตอาจช่วยลดอาการของโรคในคนที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าระดับอ่อนถึงปานกลางแต่ไม่รุนแรง(หรืออาการหลัก) ในการศึกษาอันหลากหลายดูเหมือนว่า มันจะออกฤทธิ์เหมือนยากลุ่ม (SSRIs)เป็นกลุ่มยาต้านโรคซึมเศร้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและที่มีการถูกสั่งบ่อยที่สุดเพื่อรักษาโรคซึมเศร้า ยากลุ่ม SSRIs รวมถึง ฟลูโอเซทีน(โปรแซค),ซิตาโลแพรม(ซีลีซา)และเซอทราไลน์(โซลอฟ) นอกจากนี้ดูเหมือนว่าเซนต์จอห์น เวิร์ตจะไม่ส่งผลให้หมดอารมณ์ทางเพศ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการผลข้างเคียงที่พบมากที่สุดของยากลุ่มต้านโรคซึมเศร้า
เซนต์จอห์น เวิร์ตประกอบไปด้วยสารหลายตัวรวมถึง ไฮเปอร์ริซิน,ไฮเปอร์โฟริน และฟลาโวนอยด์ นักวิจัยไม่แน่ใจอย่างแจ่มชัดว่า เซนต์จอห์น เวิร์ต ออกฤทธิ์อย่างไร นักวิจัยบางคนแนะนำว่าสมุนไพรชนิดนนี้ทำหน้าที่คล้ายกับยา SSRIs ทำให้เพิ่มการมีอยู่ของสารเคมีในสมองที่เรียกว่า เซเรโทนีน,โดพลามิน,นอร์อิพิเนฟริน สารสื่อประสาทเหล่านี้ช่วยพัฒนาอารมณ์ได้ นักวิทยาศาสตร์คิดค้นที่ว่าไฮเปอร์ริซินมีหน้าที่รับผิดชอบแต่ในปัจจุบันพวกเขาเชื่อว่าสารเคมีอื่นในเซนต์จอห์น เวิร์ตอาจทำหน้าที่ได้ดีกว่า
ไม่ใช่ทุกกการศึกษาจะเห็นด้วยตามนี้ อย่างไรก็ตามมีการศึกษาชิ้นหนึ่งชี้ให้เห็นว่า เซนต์จอห์น เวิร์ตไม่ได้มีประสิทธิภาพมากกว่ายาหลอกเพื่อรักษาโรคซึมเศร้า แต่การศึกษานี้ควรมีน้ำหนักต่อต้านเสียงข้างมากที่ว่า ถ้าพบว่าเซนต์จอห์น เวิร์ตช่วยรักษาโรคซึมเศร้าได้ เช่นในการศึกษาแบบเดียวกันนี้ ยาโซลอฟที่ประสบความล้มเหลวในการแสดงคุณประโยชน์ในการรักษาโรคซึมเศร้าด้วยเช่นกัน การศึกษาอื่นๆอีกหลายแห่งมีการเปรียบเทียบระหว่างเซนต์ จอห์น เวิร์ต กับยาโปรแซค,ซีลีซา,บาร็อกซีไทน์(พาซิล)และโซลอฟ และพบว่าสมุนไพรชนิดนี้ออกฤทธิ์ได้เทียบเท่ากับยา ส่วนการศึกษาเรื่องนี้ยังคงดำเนินอยู่
กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน
งานวิจัยแนะนำว่าที่ว่าเซนต์จอห์น เวิร์ตอาจช่วยบำบัดอาการทั้งทางร่างกายและอารมณ์ของกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนในผู้หญิงบางคน รวมถึง อาการปวดช่องท้อง,ความหงุดหงิด,อยากอาหารและอาการเจ็บหน้าอก มีการศึกษาหนึ่งรายงานว่า 50%ของผู้บริโภคเซนต์จอห์น เวิร์ตสามารถลดความรุนแรงของอาการได้
วัยหมดประจำเดือน
ยังมีหลักฐานบางอย่างที่แนะนำว่าที่ว่าเซนต์จอห์น เวิร์ตผสมกับแบล็ค โคฮอช ช่วยผ่อนคลายอารมณ์วิตกกังวลระหว่างมีประจำเดือน
โรคซึมเศร้าที่เกิดจากผลกระทบของฤดูกาล
ใช้อย่างเดียว เซนต์จอห์น เวิร์ตช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นในคนที่มีอาการโรคซึมเศร้าที่เกิดจากผลกระทบของฤดูกาลเป็นลักษณะของโรคซึมเศร้าที่เกิดขึ้นระหว่างฤดูหนาวเพราะไม่มีแสงแดด โรคซึมเศร้าที่เกิดจากผลกระทบของฤดูกาล โดยปกติแล้วจะใช้วิธีบำบัดกับแสงสว่าง งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าที่ว่าใช้ เซนต์จอห์น เวิร์ตด้วยกันกับวิธีรักษาด้วยแสงไฟ(phototherapy )ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
ข้อควรระวังและข้อคำเตือน
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้เซนต์จอห์น เวิร์ต
ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ถ้าอยู่ในอาการหรือลักษณะดังต่อไปนี้:
• ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
• อยู่ในระหว่างใช้ยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา
• แพ้เซนต์จอห์น เวิร์ตหรือยาอื่น หรืออาหารเสริมอื่น
• มีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่นๆ
• มีอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์
ข้อบังคับสำหรับอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้มากขึ้นเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ทั้งนี้ ก่อนใช้ คุณประโยชน์ของการรับประทานอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนี้ต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
เซนต์จอห์น เวิร์ต ปลอดภัยแค่ไหน
ในเด็ก
เซนต์จอห์น เวิร์ตน่าจะปลอดภัยเมื่อรับประทานไม่เกิน 8 สัปดาห์ สำหรับเด็กที่มีอายุ 6-17 ปี
กำลังตั้งครรภ์และให้นมบุตร
ห้ามใช้เซนต์จอห์น เวิร์ตถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร เพราะว่า
ขณะที่บางการศึกษาพบว่า เซนต์จอห์น เวิร์ตสามารถส่งผลเสียหายต่อหนูที่ยังไม่เกิด ยังไม่มีใครรู้ว่ามันมีผลข้างเคียงเช่นเดียวกันในมนุษย์ที่ยังไม่เกิดในครรภ์มารดาหรือไม่
ในบางกรณีของการให้นมบุตร แม่ผู้ซึ่งรับประทาน เซนต์จอห์น เวิร์ตสามารถประสบกับโรคคอลิค(Colic) อาการง่วงนอนและอาการกระสับกระส่าย
การผ่าตัด
หยุดการใช้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนถึงกำหนดการผ่าตัด
ผลข้างเคียง
อะไรที่เป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้เซนต์จอห์น เวิร์ต
ผลข้างเคียงที่ได้จากการใช้เซนต์จอห์น เวิร์ตคือ:
- ท้องไส้ปั่นป่วน
- อาการโรคลมพิษ
- ผิวหนังคัน
- เพลีย
- กระสับกระส่าย
- ปวดหัว
- ปากแห้ง
- เวียนศรีษะ
- ความสับสนในจิตใจ
- ผื่นแพ้แดด(เซนต์จอห์น เวิร์ต ยังทำให้ผิวหนังรู้สึกไวต่อแสงแดดมากเกินไปด้วย)
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผลข้างเคียง หากมีข้อสงสัยใดๆเกี่ยวกับผลข้างเคียงของเซนต์จอห์น เวิร์ต โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์
ปฏิกิริยาระหว่างยา
อะไรเป็นปฏิกิริยาระหว่างยาที่เกิดขึ้นกับเซนต์จอห์น เวิร์ต
ผลิตภัณฑ์อาจมีปฏิกิริยาระหว่างยาเหล่านี้ เช่น
- ยารักษาอาการซึมเศร้า
เซนต์จอห์น เวิร์ต อาจมีปฏิกิริยาต่อยาที่ใช้รักษาอาการซึมเศร้าหรือโรคภาวะผิดปกติทางอารมณ์ รวมถึงยากลุ่ม ไทรซิคลิค แอนตี้ดีเพรสแซนท์,SSRIs,และโมโนเอมีน ออกซิเดส(MAOIs)รับประทานเซนต์จอห์น เวิร์ตร่วมกับยาเหล่านี้โน้มน้าวให้เกิดผลข้างเคียงเพิ่มขึ้น และยังสามารถนำไปสู่สภาพที่เป็นอันตรายที่เรียกว่า กลุ่มอาการเซเรโทนิน ห้ามรับประทานเซนต์จอห์นเวิร์ตร่วมกับยาต้านโรคซึมเศร้าอื่นๆ ดังนี้
-SSRIs:ซิตาโลแพรม(ซิลีซา),เอสซิตาโลแพรม(เลซาโปร),ฟลูว๊อกซามีน(ลูว๊อกซ์),พาโรเซทีน(พาซิล),ฟลูโอเซทีน(โปรแซค),เซอทราลีน(โซลอฟ)
-ไทรไซคลิค:อะมิทริปไทลีน(อีลาวิล),นอร์ทิปไทลีน(พาเมลอร์),อิมิพรามีน(โทฟานิล)
- MAOIs:ฟีเนลซีน(นาร์ดิล),ทรานิลไซโพรไมน์(พาร์เนต)
-นีฟาโซโดน(เซอโซน)
- แพ้ยาต้านฮิสตามิน
เซนต์จอห์น เวิร์ตอาจลดระดับการออกฤทธิ์ของยาเหล่านี้ในร่างกาย ทำให้ยาเหล่านี้มีประสิทธิภาพน้อยลง
-โลราทาดีน(คลาริติน)
-เซติริซีน(ไซเทค)
-เฟกโซเฟนาดีน(อัลเลกร้า)
- โคลพิโดเกรล(พลาวิทซ์)
ตามทฤษฎีแล้วการรับประทานเซนต์จอห์น เวิร์ตควบคู่กับโคลพิโดเกรลอาจทำให้เพิ่มความเสี่ยงของการตกเลือด
- เดกซ์โทรเมทอร์แฟน(ยาบรรเทาอาการไอแบบไม่มีเสมหะ)
รับประทานเซนต์จอห์น เวิร์ตพร้อมกันกับเดกซ์โทรเมทอร์แฟน ยาบรรเทาอาการไอ ในหลายที่ซึ่งการซื้อขายกันโดยตรงในยาแก้ไอและยาลดไข้ สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงรวมไปถึงกลุ่มอาการเซเรโทนีน
- ไดโกซิน
เซนต์จอห์น เวิร์ตอาจลดระดับการออกฤทธิ์ของยาที่รักษา และทำให้ยาเหล่านี้มีประสิทธิภาพน้อยลง
ห้ามรับประทานเซนต์จอห์ เวิร์ตถ้าคุณกำลังรับประทานยาไดโกซิน
- ยาที่ระงับระบบภูมิคุ้มกัน
เซนต์จอห์น เวิร์ตสามารถลดประสิทธิภาพของยาเหล่านี้ ซึ่งเป็นการรับประทานภายหลังการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือเพื่อควบคุมโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ขณะนี้ยังมีรายงานว่าไซโคสปอรีนทำให้ระดับเลือดตกในกลุ่มคนที่มีการปลูกถ่ายหัวใจและไต แม้แต่เป็นการชี้นำเพื่อปฏิเสธอวัยวะที่ถูกปลูกถ่ายแล้ว
-อะดาลิมูแมบ(ฮูมิรา)
-อะซาทิโอพริน(อิมูรัน)
-ไซโคลสปอรีน
-อีทาเนอร์เซ็นต์(เอ็นเบรล)
-เมโธเทรกเซท
-ไมโคฟีโนเลต โมฟีทิล(เซลเซปต์)
-ทาโครลิมัส(โปรกราฟ)
- ยาต้านเอชไอวี
เซนต์จอห์น เวิร์ตแสดงปฏิกิริยากับยาอย่างน้อย 2 ประเภทที่ใช้รักษา เอชไอวีและเอดส์ โปรตีเนสอินฮิบิเตอร์ ยารีเวอร์สทรานคริปเทสอินฮิบิเตอร์ องค์การจัดการด้านอาหารและยาให้คำแนะนำว่าที่ว่าเซนต์จอห์น เวิร์ตไม่ควรนำไปใช้กับยาประเภทต้านรีโทรไวรัสที่ใช้รักษาเอชไอวี หรือเอดส์
- ยาคุมกำเนิด
ขณะนี้มีรายงานให้เห็นถึงการค้นพบการเลือดออกในผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิดผู้ซึ่งรับประทานเซนต์จอหืน เวิร์ตไปด้วย มีความเป็นไปได้ที่ว่าสมุนไพรชนิดนี้อาจทำให้ยาคุมกำเนิดประสิทธิภาพลดลง นำไปสู่การตั้งครรภ์โดยทันที
- กรดอะมิโนเลวูลินิก
การรักษาชนิดนี้อาจทำให้ผิวของคุณไวต่อแสงแดด เซนต์จอห์นเวิร์ตยังเพิ่มความไวต่อแสงของผิวหนัง พร้อมกันนี้มันอาจทำให้ส่งผลต่อผิวที่ไวต่อแสงอาทิตย์
- รีเซอร์ไพน์
ตามข้อมูลอ้างอิงจากการศึกษาวิจัยในสัตวื เซนต์จอห์น เวิร์ตอาจเข้าไปแทรกแซงความสามารถของยารีเซอรืไพน์ เพื่อรักษาความดันโลหิตสูง
- เซดาทีฟ
เซนต์จอห์น เวิร์ตสามารถเพิ่มผลกระทบของยาที่มีฤทธิ์ทำให้ระงับประสาทอย่างแรง รวมถึง
-ยากันชัก เช่น ยาเฟนิโทอิน(ไดแลนติน)กรดวาลโปรอิก(ดีปาโก๊ต)
-บาร์บิทูเรต
-เบนโซไดอะซีปีน เช่น ไดซีแพม (วาเลียม)
-ยาที่ใช้รักษาโรคนอนไม่หลับ เช่น โซพิด็ม(แอมเนียม),ซาเลปลอน(โซนาต้า),เอสโซปลิโคน(ลูเนซา),และราเมลธิออน(โรซีเร็ม)
-ไทรไซคลิค แอนตี้ดีเพรสแซนท์(Tricyclic antidepressants) เช่น ยาอะมิทริปไทลีน(อิลาวิล)
-แอลกอฮอล์
- อัลปราโซแลม(ซาแน็กซ์)
เซนต์จอห์น เวิร์ต อาจเร่งความอ่อนแอของยาซาแน็กซ์ในร่างกาย ทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง
- ทิโอฟิลลีน
เซนต์จอห์น เวิร์ตสามารถลดระดับยาตัวนี้ในเลือด ทิโอฟิลลีนเป้นการใช้แพร่หลายในสายการบินในคนที่ป่วยเป็นโรคหอบหืด,ถงลมโป่งพอง,และโรคหลอดลมอักเสบ
- ทริปแทน(ใช้เพื่อรักษาโรคไมเกรน)
เซนต์จอห์น เวิร์ตสามารถเพิ่มความเสี่ยงของข้างเคียง รวมถึง กลุ่มอาการเซเรโทนีน เมื่อรับประทานยาเหล่านี้:
-นาราทริปแทน(อเมอร์ท)
-ริซาทริปแทน(มาซาลท์)
-ซูมาทริปแทน(อิมเทร็กซ์)
-โซลมิทริปแทน(โซมิก)
- ยาวาฟาริน (คูมาดิน)
เซนต์จอห์น เวิร์ตลดประสิทธิภาพของยาวาฟาริน,แอนตี้โคลกูแลนท์(ยาเจือจางเลือด)
- ยาอื่นๆ
อันเนื่องมาจากว่าเซนต์จอห์น เวิร์ตเป็นตัวทำให้บางส่วนของเอนไซม์ที่ทำงานในตับล้มเหลวและยังมีปฏิริยาต่อยาอื่นที่ว่าเอนไซม์ชนิดเดียวกันทำงานล้มเหลว ซึ่งมีรายการยาดังนี้:
-ยาแอนตี้ฟันกัล(Antifungal drugs) เช่น คีโตโคนาโซล(ไนโซรัล),อินทราโตนาโซล(สปอราน๊อกซ์),ฟลูโคนาโซล(ไดฟลูแคน)
-ยาสเตติน(ยาช่วยลดคลอเลสเตอรอล) รวมถึง อะโทรวาสเตติน(ลิปิเตอร์), โลวาสเตติน(มีวาเคอร์),และซิมวาสเตติน(โซคอร์)(Zocor)
-อิมาทินิบ(กลีแวค)
-อิริโนทีแคน(แคมป์โทซาร์)
-ยากลุ่มช่วงบล็อคแคลเซี่ยม (รับประทานเพื่อลดความดันโลหิต)
-ยาชนิดอื่นที่ทำให้ตับล้มเหลว
ขนาดยา
ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ใช้แทนคำแนะนำทางการ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้ทุกครั้ง
ขนาดปกติของการใช้เซนต์จอห์น เวิร์ตอยู่ที่เท่าไร
ผู้ใหญ่
สำหรับโรคซึมเศร้าระดับอ่อนและโรคภาวะผิดปกติทางอารมณ์
ขนาดปกติของสมุนไพรแห้งชนิดนี้(บรรจุในแคปซูล หรือ เม็ด)คือ ขนาด 300 มิลลิกรัม(ต่อมาตราฐานที่ 0.3% ของสารสกัดไฮเปอร์ริซิน) 3 เวลาต่อวัน พร้อมอาหาร เซนต์จอห์น เวิร์ตพร้อมจำหน่ายในรูปแบบแคปซูล อาจต้องใช้เวลาประมาณ 3 – 6 สัปดาห์เพื่อรู้สึกถึงผลที่ได้รับจากเซนต์จอห์น เวิร์ต
สำหรับรักษาแผล
ขี้ผึ้งประกอบด้วยสารสกัด เซนต์จอห์น เวิร์ตอยู่ 5% ทาลงบนผิวหนัง 3 เวลาทุกวัน เริ่มภายใน 24 ชม.หลังจาก ซี เซคชั่น(C-Section)และใช้ต่อเนื่องไป 16 วัน
เด็ก(อายุต่ำกว่า 18 ปี)
สำหรับ เอดีเอชดี(ADHD)
เซนต์จอห์น เวิร์ต 300 กรัม (ขนาดมาตราฐานคือ 0.3% ไฮเปอร์ริซิน)ที่เคยใช้ในเด็ก 3 เวลาทุกวัน และใช้ต่อไปถึง 8 สัปดาห์ ปราศจากข้อเท็จจริงของคุณประโยชน์ที่ได้รับ
สำหรับโรคซึมเศร้าอ่อนจนถึงปานกลาง
รับประทาน เซนต์จอห์น เวิร์ต 150-300 มิลลิกรัม 3 เวลา ทุกวันเป็นเวลา 8 สัปดาห์ในเด็กที่มีอายุระหว่าง 6-17 ปี
สารสกัดเซนต์จอห์น เวิร์ต (LI 160,ลิชเวอร์ ฟาร์มา(Lichtwer,Pharma)) 300-1800 มิลลิกรัม ขนาดแบ่งใช้ 3 ครั้ง รับประทานทุกวัน ใช้มากกว่า 6 สัปดาห์ขึ้นไป
ปริมาณการใช้เซนต์จอห์น เวิร์ตอาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ทั้งนี้ ปริมาณใช้ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพและพยาธิสภาพอื่น ๆ อาหารเสริมประเภทสมุนไพรไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์เพื่อทราบปริมาณยาที่เหมาะสม
เซนต์จอห์น เวิร์ตจำหน่ายในรูปแบบใดบ้าง
- แคปซูล
- เม็ด
- ยาทิงเจอร์
- ชา
- น้ำมันโลชั่นทาผิว
- สับหรือผงเพื่อกลายเป็นสมุนไพรชนิดแห้ง
เซนต์จอห์น เวิร์ต http://umm.edu/health/medical/altmed/herb/st-johns-wort การเข้าถึง
ธันวาคม 26,2016
เซนต์จอห์น เวิร์ต http://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/st-johns-wort/dosing/hrb-20060053. การเข้าถึง ธันวาคม26,2016
เซนต์จอห์น เวิร์ต https://www.drugs.com/cdi/st-john-s-wort.html. การเข้าถึง ธันวาคม26,2016