เช็คสุขภาพ : ที่นี่ ... มีคำตอบให้ทุกคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน
หน้าแรก / บทความ / พฤติกรรมการกินผิดปกติของวัยรุ่นโรคเบาหวานชนิดที่ 1
โดย : วณิชชา สุมานัส
ทบทวนบทความโดย : ทีมแพทย์จากเช็คสุขภาพ
พฤติกรรมการกินผิดปกติของวัยรุ่นโรคเบาหวานชนิดที่ 1

พฤติกรรมการกินที่ผิดปกติคืออะไร (ดีอีบี)

ในกลุ่มวัยรุ่นที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 พฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ (ดีอีบี) ถือเป็นปัญหาซับซ้อนที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก พฤติกรรมการกินที่ผิดปกติคือผลลัพธ์จากความรู้สึกเชิงลบเกี่ยวกับขนาดและน้ำหนักตัว พฤติกรรมการกินที่ผิดปกติยังรวมไปถึงพฤติกรรมในวงกว้างที่รบกวนชีวิตประจำวัน เช่น การกินมากเกินไป อดอาหารมากเกินไป เช่นเดียวกับพฤติกรรมการควบคุมน้ำหนักที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การใช้ยาระบายหรือยาเพื่อขจัดอาหาร

งานวิจัยในปัจจุบันไม่ได้ระบุชัดเจนว่ากลุ่มวัยรุ่นมีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคการกินผิดปกติเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการกินที่ผิดปกติมักจะเกิดขึ้นกับวัยรุ่นที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 นอกจากนี้ยังมีเหตุผลบางประการที่ช่วยรองรับความขัดแย้งที่ว่าทำไมอัตราวัยรุ่นเป็นโรคการกินผิดปกติถึงอยู่ในระดับต่ำแต่อัตราพฤติกรรมการกินผิดปกติกลับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเหตุผลเหล่านี้เกี่ยวข้องกับโรคและการรักษา

ขณะที่อัตราการป่วยเป็นโรคการกินผิดปกติในวัยรุ่นจะค่อนข้างต่ำและพฤติกรรมการกินผิดปกติที่ไม่ปรากฏให้เห็นจะดูเป็นเรื่องปกติ แต่ก็มักจะมีรายงานว่าวัยรุ่นที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 มีพฤติกรรมการกินผิดปกติที่ไม่ค่อยปรากฏให้เห็น (ไม่แสดงออกหรือมีอาการบ่อยพอที่จะถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานอย่างเฉพาะเจาะจง ตัวอย่างของพฤติกรรมการกินผิดปกติที่ไม่ปรากฏให้เห็นนั้นรวมไปถึงการจำกัดปริมาณอาหารที่กินและการออกกำลังมากเกินไปเพื่อลดน้ำหนัก นอกจากอาการเหล่านี้แล้ว มักได้รับรายงานว่าวัยรุ่นที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 จะหยุดฉีดหรือลดปริมาณยาอินซูลินลงซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะไกลโคซูเรีย (มีน้ำตาลในปัสสาวะมากเกินไป) และ “น้ำตาลเป็นพิษ” ซึ่งมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของวัยรุ่นที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน การลดหรือหยุดฉีดอินซูลินจะป้องกันร่างกายไม่ให้เผาผลาญอาหารที่พวกเขากินเข้าไป ไม่เหมือนกับวัยรุ่นที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคเบาหวานซึ่งร่างกายจะผลิตอินซูลินโดยอัตโนมัติเพื่อตอบสนองต่ออาหารที่กินเข้าไป

ความเสี่ยงจากพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติคืออะไร
งานวิจัยระบุว่าความเสี่ยงของการมีพฤติกรรมกินอาหารผิดปกติของวัยรุ่นที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 เกี่ยวข้องกับปัจจัยที่ทราบกันดีซึ่งส่งผลต่อวัยรุ่นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น รู้สึกหดหู่ อยากผอม เคยควบคุมอาหารมาก่อน คาดหวังมาตรฐานการรักษาไว้สูงและเป็นชาวคอเคเซียน ปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการกินที่ผิดปกติของวัยรุ่นป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้าเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงความคิดที่อยากควบคุมระดับน้ำตาลและเลี่ยงการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักที่มักเกิดขึ้นเมื่อรักษาด้วยอินซูลิน นอกจากนี้ พฤติกรรมการรักษาโรคเบาหวานด้วยตนเองยังทำให้เกิดพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติอย่างเช่น หมกมุ่นกับอาหาร คอยควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่กินเข้าไปและควบคุมน้ำหนักเมื่อน้ำหนักขึ้นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากรักษาด้วยอินซูลินสำเร็จ สุดท้ายแล้ว การเป็นโรคเบาหวานจะส่งผลให้ผู้ป่วยต้องควบคุมความอยากอาหารในหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่วัยรุ่นป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 จะมีอัตราการเกิดพฤติกรรมการกินผิดปกติที่ไม่ปรากฎให้เห็นมากกว่าที่คาดไว้

สัญญาณที่ควรระวัง
ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบสัญญาณของพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติได้โดย ดูภาวะซึมเศร้า รูปแบบการกินและน้ำหนักที่เปลี่ยนไปเมื่อมีการเปลี่ยนวิธีควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด (ยกตัวอย่างเช่น น้ำหนักขึ้นเนื่องจากการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเคร่งครัดหรือน้ำหนักลดเนื่องจากละเลยการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด) โปรดสังเกตว่าการใช้อินซูลินน้อยเกินไประหว่างช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงก็อาจเป็นสัญญาณของพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติได้เช่นกัน นอกจากนี้ความสนใจในการควบคุมระดับน้ำตาลที่ลดลงก็อาจเกิดจากการกังวลเรื่องน้ำหนัก

การป้องกันพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติควรทำแต่เนิ่นๆ
ผู้ปกครองของเด็กเล็กที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 สามารถช่วยพวกเขาได้ด้วยการสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างอาหารกับวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าหมกมุ่นกับน้ำหนัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยป้องกันพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติเมื่อเด็กเติบโตเป็นวัยรุ่นได้ สิ่งสำคัญที่ผู้ปกครองควรทำคือ เสนอทางเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพภายในบ้าน เลือกอาหารเพื่อสุขภาพด้วยตัวเองและอย่าคิดว่าระดับน้ำตาลในเลือดนั้นเกี่ยวข้องกับอาหารโดยตรง ยกตัวอย่างเช่น การถามลูกว่า “ลูกเพิ่งกินอะไรเข้าไป” หลังจากพบว่าค่าน้ำตาลในเลือดสูงก็อาจทำให้เด็กเครียดเรื่องอาหารได้

ขอความช่วยเหลือ
ถ้าคุณรู้สึกว่าลูกวัยรุ่นของคุณแสดงสัญญาณของพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ การขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพอย่างนักจิตวิทยาด้านพฤติกรรมเพื่อให้ช่วยประเมินผลที่ถูกต้องถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากเพราะพวกเขาคุ้นเคยกับการรักษาโรคเบาหวานและโรคการกินผิดปกติเป็นอย่างดี

19/03/2018
บทความที่เกี่ยวข้อง
CHECKSUKKAPHAP.COM
เลขที่ 598 ชั้น 6 ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
095-515-9229
ข้อกำหนดและเงื่อนไข ความเป็นส่วนตัว