เช็คสุขภาพ : ที่นี่ ... มีคำตอบให้ทุกคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน
หน้าแรก / บทความ / กลยุทธ์การรักษาโรคหลอดเลือดสมอง
โดย : วณิชชา สุมานัส
ทบทวนบทความโดย : ทีมแพทย์จากเช็คสุขภาพ
กลยุทธ์การรักษาโรคหลอดเลือดสมอง

วิธีการรักษาโรคหลอดเลือดสมองทำอย่างไร

การบริหารการแพทย์และการรักษาโรคหลอดเลือดสมองมีหลายประเภท การวินิจฉัยและการรักษาโรคหลอดเลือดสมองนั้นซับซ้อนมากและต้องการการติดตามผลของสัญญาณและอาการทางประสาท แพทย์ที่จัดการกับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจะอธิบายการรักษาและความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงของระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดสมอง

การรักษาโรคหลอดเลือดสมองแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้

  • การจัดการกับลิ่มเลือดหรืออาการเลือดออกในสมอง
  • การจัดการกับสุขภาพที่ดีสม่ำเสมอเพื่อให้มีการฟื้นตัวสูงสุดในขณะที่ป้องกันการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น
  • การวิจัยใหม่จะมองหาวิธีที่ป้องกันการสูญเสียของสมองเช่นสารปกป้องระบบประสาท, ภาวะตัวเย็นเกิน และการรักษาเซลล์ต้นกำเนิด

การรักษาอะไรที่ใช้ในการจัดการกับลิ่มเลือดหรือการเลือดออกในสมอง
จะใช้ยาเจือจางเลือดเมื่อมีการอุดตันของลิ่มเลือดในหลอดเลือด ลิ่มเลือดจะลดการไหลเวียนของเลือดในสมองทำให้เลือดในสมองขาดแคลนเรียกว่าการขาดเลือดเฉพาะที่ ยาเจือจางเลือดจะมีประสิทธิผลเมื่อใช้ทันทีที่เริ่มมีอาการโรคหลอดเลือดสมอง ยาเจือจางเลือดที่มีประสิทธิผลรวมถึง TPA, ยาละลายลิ่มเลือด จะใช้หลังจากมีอาการโรคหลอดเลือดสมองไปแล้วภายใน 3 ชั่วโมงเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิผลสูงสุด ยิ่งไปกว่านั้นจะฉีดยาเจือจางเลือดไปโดยตรงไปที่เส้นเลือดที่อุดตัน เรียกว่าการให้ยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดแดงซึงจะทำให้ลิ่มเลือดที่อุดตัดหลอดเลือดแดงแตกตัวไป

กระบวนการนี้ต้องการทักษะและมีความเสี่ยงในการเลือดออกมาก แม้ว่าจะมีการทำ TPA และการให้ยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดแดง บางครั้งการให้ยาเจือจางเลือดทางเส้นเลือดดำเรียกว่ายาเฮพารินจะถูกนำมาใช้ ซึ่งจะใช้ในโรงพยาบาลและต้องมีการติดตามผลอย่างระมัดระวังเพื่อวัดผลกระทบของยาเฮพาริน การติดตามผลอย่างใกล้ชิดกับสภาพทางประสาทเป็นสิ่งจำเป็นเช่นกันเพราะยา    เฮพารินก็เหมือนกับยาเจือจางเลือดอาจทำให้เลือดออกในบริเวณที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง แนะนำให้ทำการป้องกันลิ่มเลือดในระยะยาวด้วยยาอาจทำที่บ้านหลังจากออกจากโรงพยาบาลทันทีด้วยโรคหลอดเลือดสมอง

ขณะที่ยาเจือจางเลือดเป็นกลไกในการปกป้องการเติบโตของลิ่มเลือด การใช้ยาเจือจางเลือดก็เป็นดาบสองคมเพราะอาจจะทำให้เลือดออกในสมองหือบริเวณอื่นของร่างกาย ทำให้อาการโรคหลอดเลือดสมองรุนแรงขึ้น บางครั้งคนไข้จะทุกข์ทรมานกับการเลือดออกที่บริเวณอื่นของร่างกายเช่นท้องหรือลำไส้ ซึ่งเป็นผลจากการรักษาโรคหลอดเลือดสมองด้วยยาเจือจางเลือด

การจัดการการเลือดออกในสมองนั้นเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ต้องควบคุมความดันโลหิตและปริมาณน้ำในร่างกาย ติดตามผลปริมาณการเลือดออกและความรุนแรง กระบวนการเหล่านี้เรียกว่าการผ่าตัดเปิดกะโหลก ซึ่งเกี่ยวกับการผ่าตัดเอาส่วนประกอบในกะโหลกศีรษะออกเพื่อคลายความดันในสมองจากน้ำและเลือด หลังจากบวมและเลือดออก ส่วนที่ผ่าตัดออกมาจากกะโหลกศีรษะจะถูกทดแทนเพื่อปกป้องสมอง

การรักษาแบบไหนที่ใช้ในการจัดการสุขภาพเพื่อให้เกิดการฟื้นตัวสูงสุดและป้องกันการเสียหายที่จะเกิดขึ้น

ระหว่างขั้นตอนสั้นๆ หลังจากเกิดโรคหลอดเลือดสมอง การจัดการน้ำในร่างกายอย่างระมัดระวังและสัญญาณสำคัญเป็นเรื่องสำคัญมาก ใน 2-3 วันแรก จะต้องมีการติดตามผลปริมาณเลือด ความเข้มข้นของเลือดอย่างใกล้ชิด ความเข้มข้นของอิเล็คโทรไลต์เช่น โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม คลอไรด์จะมีผลกระทบมากในการไหลเวียนของน้ำไปยังหลอดเลือดหรืออออกจากหลอดเลือดไปสู่ร่างกายรวมถึงสมอง การป้องกันการขาดน้ำ ความดันโลหิตต่ำหรือสูงต้องการการฟื้นตัวสูงสุด การควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงหรือต่ำมากเกินไปก็สำคัญในการฟื้นตัว

อะไรที่ควรจะคำนึงถึง

การจัดการกับโรคหลอดเลือดสมองนั้นต้องการการตัดสินใจที่ซับซ้อนและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และไม่สามารถที่จะพิจารณาได้อย่างแน่ชัด เมื่อคุณหรือคนที่คุณรักเป็นโรคหลอดเลือดสมอง จำเป็นต้องทราบและต้องหาคำตอบของคำถามคุณทั้งหมด ยิ่งคุณรู้มากเท่าไร คุณจะรู้สึกสบายในการถามและเข้าใจอาการที่ดีขึ้นและการฟื้นตัวของโรคได้ดีขึ้น

19/03/2018
บทความที่เกี่ยวข้อง
CHECKSUKKAPHAP.COM
เลขที่ 598 ชั้น 6 ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
095-515-9229
ข้อกำหนดและเงื่อนไข ความเป็นส่วนตัว