31 มีนาคม 2561, กรุงเทพ --- จากข้อมูลของกรมสุขภาพจิตไทยเมื่อปี 2560 พบว่า คนไทยป่วยจิตเวชกว่า 1.6 ล้าน และผลสำรวจระบาดวิทยาระดับชาติในปีเดียวกันระบุว่า ในจำนวนนี้ที่ป่วยเป็นโรคจิตเวชมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จากสถิติของทาง “เช็คสุขภาพ” ที่ตอบคำถามให้ผู้เข้ารับคำปรึกษาในเรื่องโรคภัยไข้เจ็บพบว่า โรคทางจิตเวชอาจเกิดขึ้นได้กับคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีลงมาอีกด้วยซ้ำ และกำลังเพิ่มมากขึ้น และผู้ช่วยเหล่านี้ มีจะทำร้ายตัวเองและผู้อื่น หรือมีแนวโน้มจะทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น
ในช่วงที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกนิยามคำ “สุขภาพจิต” ว่า “สุขภาวะทางสังคม จิตใจและร่างกายที่สมบูรณ์ และไม่ใช่แค่การไม่มีโรคภัยไข้เจ็บหรือร่างกายไม่อ่อนแอเท่านั้น” โดยปกติ หากพบว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องสุขภาพทางจิต ควรพบผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช จิตเวชเป็นสาขาด้านการแพทย์หนึ่ง ที่ศึกษาเรื่องการวินิจฉัย การรักษาและการป้องกันความผิดปกติทางอารมณ์ พฤติกรรมและจิตใจ
จิตแพทย์คือใคร
จิตแพทย์เป็นแพทย์ทางจิตเวชที่สำเร็จการศึกษาด้านการแพทย์ และจากนั้นก็ทำงานและสั่งสมประสบการณ์ด้านจิตเวชเรื่อยมา จิตแพทย์มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในการรับมือกับโรคหรือปัญหาด้านจิตวิทยา ที่มีปัจจัยทางด้านร่างกายและจิตใจเป็นองค์ประกอบ หลายคนมีความเข้าใจที่ผิดในเรื่องของจิตแพทย์ จิตแพทย์ไม่ได้รักษาเฉพาะ “คนบ้า” หรือ “คนสติไม่ได้” เท่านั้น นี่เป็นความเชื่อที่ผิดอย่างมาก เพราะผู้ป่วยเหล่านี้ต้องทนทุกข์ทรมานกับภาพหลอนต่าง ๆ และเป็นเพียงส่วนน้อยของผู้ป่วยด้านจิตเวช ที่จริงแล้ว คนจำนวนมากมีโรคทางจิตบ้างไม่มากก็น้อยอยู่แล้ว และอาการเหล่านี้ก็สามารถรักษาได้โดยจิตแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคทางจิตเพียงเล็กน้อยสามารถหายได้และไม่กลับมาเป็นอีก
หลายคนมักพบจิตแพทย์เวลาที่เจอปัญหาในที่ทำงาน มีปัญหาเรื่องคู่ครองหรือความสัมพันธ์ และแม้แต่มีข้อกังวลเกี่ยวกับยา คนไข้เหล่านี้อาจประสบกับอาการต่าง ๆ รวมถึง ความวิตกกังวล ความเศร้า รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงและเหนื่อยล้า หรืออารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ อาการอย่างอื่นอาจรวมถึงการนอนหลับยาก ไม่มีสมาธิหรือกินไม่เป็นเวลา ในบางกรณี อาจมีอาการที่รุนแรงขึ้น และอาจรวมถึงการสร้างภาพหลอน หรือการฆ่าตัวตาย หรือลงมือก่อคดีฆาตกรรม
ไปพบจิตแพทย์แล้วคาดหวังว่าต้องเจออะไร
จิตแพทย์ให้บริการได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการจัดการ และการรักษาที่เกี่ยวกับปัญหาด้านพฤติกรรม อารมณ์และจิตใจ จากการพูดคุยกับคนไข้และการรักษาครั้งแล้วครั้งเล่า จิตแพทย์สามารถระบุถึงต้นตอปัญหาได้ และยังแนะช่องทางในการรักษาหากช่องทางนั้นเหมาะสำหรับคนไข้ ยิ่งไปกว่านั้น จิตแพทย์ยังมีความรู้ในการอธิบายความเสี่ยงและประโยชน์ในการรักษาด้วยยา และปฏิกิริยาที่จะเกิดขึ้นต่อยาอื่น ๆ ที่คนไข้กำลังใช้ จิตแพทย์สามารถตรวจสุขภาพร่างกายและการตรวจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้เพื่อตรวจดูว่า มีเหตุผลด้านร่างกายอื่น ๆ ที่อาจเป็นต้นเหตุของการป่วย หรือความไม่สมดุลของสารเคมีในร่างกายอันนำไปสู่ความเครียดด้านอารมณ์หรือไม่ กระนั้น จิตแพทย์ยังสามารถทำการรักษาตามที่เห็นสมควรได้อีกด้วย
สุขภาพจิตที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยและรักษาโดยจิตแพทย์อาจรวมถึง
- ความวิตกกังวล (Anxiety)
- โรคซึมเศร้าและโรคบุคคลสองบุคคลิก (Depression and Bipolar Disorder)
- ความผิดปกติทางบุคลิกภาพ
- โรคกลัว อาการกลัวหรือโฟเบีย
- โรคเกี่ยวกับการกินอาหาร (เช่น โรคอะโนเรกเซีย หรือ โรคคลั่งผม และโรคบูลิเมีย หรือโรคล้วงคอหลังกินอาหาร)
- โรคเกี่ยวกับการนอน (เช่น โรคนอนไม่หลับ)
- โรคทางเพศ
- การติดสุราหรือยาเสพติด
- โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive-Compulsive Disorder: OCD)
- ความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ
- โรคจิตเภทและหวาดระแวง
จิตแพทย์อาจให้กำลังใจแก่คนไข้ที่มีโรคทางด้านร่างกาย ในบางกรณี จิตแพทย์พบได้ว่า คนไข้บางรายจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาบำบัดในโรง
พยาบาลหรือสถานพยาบาล
กล่าวโดยสรุปก็คือ จิตแพทย์รักษาโรคและความผิดปกติทางด้านจิตใจในหลากหลายมิติ และหลายระดับอาการ ตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงขั้นรุนแรงและเรื้อรัง การจัดการกับคนไข้อาจขึ้นอยู่กับพยาธิสภาพของคนไข้เอง การรักษาอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญมาก และการขาดการรักษาอย่างต่อเนื่องเป็นอันตรายต่อคนไข้อย่างยิ่ง และจะทำให้การรักษาปัจจุบันไม่มีประสิทธิผลอีกด้วย การให้บริการทางจิตเวชโดยจิตแพทย์หรือแผนกจิตเวชที่ให้ต่อชุมชนนั้นรวมถึงการเฝ้าสังเกตและติดตามพฤติกรรมคนไข้ การตรวจสุขภาพ การพูดคุยให้คำปรึกษาในชุมชนและโรงเรียน เพื่อให้คนในชุมชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพจิต และช่วยให้คนไข้หายจากอาการทางจิตต่าง ๆ และมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
การให้บริการของจิตแพทย์หรือแผนกจิตเวชในคลินิกและโรงพยาบาลต่าง ๆ มุ่งช่วยเหลือให้คนไข้จัดการความเจ็บป่วยของตัวเอง เพื่อที่ว่า คนไข้เองจะได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ถึงแม้ว่า ยังมีอาการเจ็บป่วยอยู่บ้างก็ตาม และทำประโยชน์ต่อสังคมและไม่ถูกรังเกียจจากสังคม
-----
ดร. มาเรีย ซาลินา อับดุล ราฮิม
อาจารย์บรรยาวิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยไซเบอร์จายา ยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ประเทศมาเลเซีย