ข้าวโพดสีม่วงหรือข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วง เป็นธัญพืชที่มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins)ซึ่งเป็น สารต่อต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยให้อัตราการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายลดลง ข้าวโพดสีม่วง หรือข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วง

ข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วง เป็นข้าวโพดพันธุ์ใหม่ที่มีการปลูกและจำหน่ายในท้องตลาดมาสักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งสามารถนำฝักข้าวโพดไปต้มรับประทาน นอกจากนี้ยังสามารถนำไปประกอบเป็นอาหารประเภทอื่นๆ ได้หลายรูปแบบ เช่น น้ำข้าวโพดสีม่วง ซีเรียล คุกกี้ข้าวโพดสีม่วง ส้มตำข้าวโพดสีม่วง พันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วงนั้นเป็นการพัฒนาจากพันธุ์ข้าวโพดสีม่วงและพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียว จึงทำให้ได้ผลผลิตข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วง ฝักใหญ่ รสชาตินุ่มลิ้น กรอบมัน หวานและเหนียว ถูกใจใครหลายๆ คน แต่หลายคนอาจสงสัยอยู่ว่าข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วงนั้นต่างจากข้าวโพดพันธุ์อื่นๆ ย่างไร

ปัจจุบันสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาด หลายท่านคงเคยพบเห็นกันมาบ้างแล้ว แต่อาจจะสงสัยอยู่ว่า ข้าวโพดสีม่วง นี้มาจากไหน และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง พันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วง เป็นการพัฒนาจากพันธุ์ข้าวโพดสีม่วงแหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร ได้นำข้าวโพดพันธุ์ที่ใช้เลี้ยงสัตว์มาปลูกและทดลอง  ซึ่งในขณะนั้นเป็นยังเป็นที่รู้จักกันน้อย  จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การใช้ข้าวโพดเริ่มแพร่หลายขึ้นเนื่องจากหลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ   ได้นำการเลี้ยงไก่แบบการค้ามาสาธิตและกระตุ้นให้ประชาชนปฏิบัติตาม      ผู้เลี้ยงไก่จึงรู้จักใช้ข้าวโพดมากขึ้นกว่าเดิม แต่เนื่องจากระยะนั้นข้าวโพดมีราคาสูงและหายาก    การใช้ข้าวโพดจึงใช้เป็นเพียงส่วนประกอบของอาหารหลัก  ซึ่งมีรำและปลายข้าวเป็นส่วนใหญ่. แต่ในปัจจุบันผู้เลี้ยงสัตว์รู้จักข้าวโพดกันทั่วไป และเริ่มแพร่หลายไปเรื่อย ๆ  

สารสีม่วง:

สำหรับสีม่วงเข้มในเมล็ดข้าวโพดนั้น เป็นสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้ในระดับสูง ช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งชนิดเนื้องอก เสริมความคุ้มกันให้ร่างกาย ต่อต้านเชื้อโรค สมานแผล  เพิ่มการทำงานของเม็ดเลือดแดง ชะลอการเกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือด ลดภาวะการเป็นโรคหัวใจ ชะลอความเสื่อมของดวงตา ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและชะลอความแก่

ข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วงพันธุ์สวีทเบอร์รี่ (Sweet berry) เป็นพันธุุ์ลูกผสม (F1 Hybrid) ซึ่งบริษัทได้ร่วมมือกับนักวิจัยในการปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์ดังกล่าว เพื่อให้ได้ผลผลิตและรสชาติที่ดีต่อผู้บริโภค โดยอีกทั้งยังสามารถนำมาแปรรูปใช้ประโยชน์ได้เกือบทุกส่วน แต่ในอดีตบ้านเรากินแต่เมล็ดข้าวโพดสด หลังจากนั้นไม่ได้ใช้อะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นซังหรือไหม ทั้งที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ สำหรับเมล็ดข้าวโพดนั้น หากเก็บมาสดๆ นำมาฝานแล้วไปนึ่งให้สุก จากนั้นคลุกกับมะพร้าวและงา ซึ่งสามารถเก็บในรูปแช่แข็งไว้ได้ด้วย ส่วนซังกับไหมนั้นนำไปสับแล้วเอาไปต้ม จะได้น้ำสีม่วง จากนั้นเติมน้ำผลไม้อย่างอื่นเข้าไป เพื่อให้มีรสชาติตามต้องการ

กรณีเป็นเมล็ดข้าวโพดแห้ง ถ้าไม่ปลูก หรือไม่ใช้เลี้ยงสัตว์ สามารถนำมาแปรรูปเป็นข้าวโพดทอด ฝรั่งเรียก corn nut คือ นำเมล็ดมาผสมผงปรุงรสหน่อย ซึ่งเป็นกลุ่มของข้าวโพดข้าวเหนียว ไม่เหมือนกับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่จะแข็ง กรอบ แล้วก็อมน้ำมัน แต่สำหรับข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วงจะมีเทคเจอร์ มีรสสัมผัสที่คนไทยคุ้นเคย

“จะเห็นได้ว่า เราสามารถใช้ประโยชน์จากข้าวโพดได้ทั้งหมด โดยบางชุมชนในหมู่บ้านสามารถทำเพื่อบริโภค และขายในท้องถิ่นได้ ชาวบ้านเขาเก่งมาก ในกรณีของน้ำข้าวโพดม่วง ชาวบ้านสามารถเอาไปย้อมสีข้าวเหนียว กลายเป็นข้าวเหนียวม่วง แล้วเอาไปทำไอศกรีมก็กลายเป็นไอศกรีมสีม่วง ซึ่งเป็นสีผสมอาหารตามธรรมชาติ”

สรรพคุณทางยา:

ที่คนโบราณค้นพบและนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย  คือ

• เมล็ดของข้าวโพดใช้ทานเพื่อบำรุงร่างกาย หัวใจ ปอด.
• ขับปัสสาวะ
• นำมาบดพอกรักษาแผล
• นอกเหนือจากนี้ยังใช้ซังข้าวโพดต้มน้ำนำมาดื่มแก้บิด ท้องร่วง ขับปัสสาวะ
• ต้น ราก และไหมข้าวโพด รสจืด หวาน ต้มเอาน้ำดื่ม  ขับปัสสาวะได้เป็นอย่างดี  เพื่อสุขภาพที่ดี  

เนื่องจากข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วงเป็นพืชที่ให้พลังงานสูง ในเมล็ดข้าวโพด 100 กรัมนั้น ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต 8.2 กรัม โปรตีน 11.1 กรัม เกลือแร่ 1.7 กรัม ไขมัน 4.9 กรัม และเส้นไยหยาบอีก 2.1 กรัม และยังมีวิตามินที่มีประโยชน์อีกมากมาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอในรูปเบต้าแคโรทีน วิตามินอีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ รวมถึงลูทีนและซีแซนทินซึ่งเป็นสารคาโรตีนอยด์ ช่วยป้องกันตาเสื่อมสภาพ

ในส่วนของสรรพคุณทางยาที่คนโบราณค้นพบและนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย คือ เมล็ดของข้าวโพดใช้ทานเพื่อบำรุงร่างกาย หัวใจ ปอด ขับปัสสาวะ นำมาบดพอกรักษาแผล นอกเหนือจากนี้ยังใช้ซังข้าวโพดต้มน้ำนำมาดื่มแก้บิด ท้องร่วง ขับปัสสาวะ ต้น ราก และไหมข้าวโพด รสจืดหวาน ต้มเอาน้ำดื่ม ขับปัสสาวะได้เป็นอย่างดี เพื่อสุขภาพที่ดี ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินมากๆ หรือพึ่งอาหารเสริมราคาแพง เพียงแค่เราเลือกรับประทาน ศึกษาข้อมูล สารอาหาร ประโยชน์ของอาหารชนิดนั้นๆ เพียงเท่านี้เราก็จะทราบว่าอาหารที่มีคุณประโยชน์ไม่ได้อยู่ไกลเลย อยู่แค่ตลาดใกล้บ้านเรานี่เอง

การรับประทาน:

ศึกษาข้อมูล สารอาหาร ประโยชน์ของอาหารชนิดนั้น ๆ เพียงเท่านี้เราก็จะทราบว่าอาหารที่มีคุณประโยชน์ไม่ได้อยู่ไกลเลย

ข้าวโพด ความมหัศจรรย์แห่งสีม่วง http://www.seedline.co.th/index.php/th/knowledge/29-corn-anti-cancer.html นำมาใช้วันที่ 10 เมษายน 2561